แฟนสาวโด้รับเคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ ตอกหน้าคนขี้อิจฉา

จอร์จิน่า โรดริเกซ สาวข้างกายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เปิดเผยว่าตอนเด็กๆ ตนเคยเป็น ‘ลูกเป็ดขี้เหร่’ มาก่อน และตอกกลับพวกคนที่อิจฉาเธอกับชีวิตอันแสนสุขสบายในปัจจุบัน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์นักฟุตบอลของ ยูเวนตุส และ จอร์จิน่า โรดริเกซ แฟนสาว ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกับเงินทองที่มีมากมาย แต่ในอดีตทั้งสองคนเคยลำบากมาก่อน และต้องดิ้นรนชีวิตกว่าจะเป็นได้ถึงทุกวันนี้

จอร์จิน่า ซึ่งเป็นหนึ่งในเซเลบริตี้คนดัง และมีผู้ติดตามใน อินสตาแกรม กว่า 21.5 ล้านคน เคยอาศัยในชุมชนแออัด และเช่าบ้านอยู่ในเมือง อูเอสก้า ประเทศสเปน มีรายได้แค่ 250 ปอนด์ หรือประมาณ 10,200 บาท ต่อสัปดาห์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ บริสตอล ประเทศอังกฤษ ตอนอายุได้ 17 ปี และรับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสอนภาษาอังกฤษ

รวมถึงพ่อบังเกิดเกล้าของเธอ เคยติดคุก 10 ปี ข้อหายาเสพติดสองครั้ง ขณะเดียวกัน โรนัลโด้ ก็เติบโตในครอบครัวที่ยากจน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน จอร์จิน่า วัย 26 ปี ใช้ชีวิตอย่างหรูหรากับ โรนัลโด้ ซึ่งมีรายได้ 540,000 ปอนด์ หรือประมาณ 22 ล้านบาท ต่อสัปดาห์ แต่ทั้งคู่ก็โดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร

ฉันมีคติประจำใจ -ไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณก็ต้องถูกวิจารณ์อยู่ตลอด-" จอร์จิน่า ให้สัมภาษณ์กับ  Mujer Hoy เว็บไซต์แฟชั่นชื่อดัง

"ผู้คนต่างอิจฉาคู่ชีวิตของฉันและตัวฉันเอง ความอิจฉาเป็นความรู้สึกที่ทำให้ความเป็นมนุษย์มันไร้สาระ มันไม่ได้ทำให้พวกเขาพัฒนาขึ้นและเต็มไปด้วยความเกลีดชังกับความแค้น"

นอกจากนี้ จอร์จิน่า ยังยอมรับว่าตัวเธอเองไม่ได้ถูกคาดหวังว่าจะมาได้ไกลถึงขนาดนี้ "ตอนที่ฉันยังเด็กๆ ฉันเคยเป็นลูกเป็ดขี้เหร่มาก่อน และฉันก็เปลี่ยนเป็น หงส์"

"ตอนเกิด ไม่มีใครเลยที่จะบอกว่า ฉันจะสวย พวกเขามักบอกกับฉันเสมอในเรื่องนั้น ฉันรักตัวฉันที่ไม่ได้สมบูณร์แบบ ไม่มีใครหรอกที่เพอร์เฟค แต่คนเราต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ นั่นคือสิ่งที่วิเศษในตัวของมันเอง"

ตามพี่โด้!ยูเวนตุสยัน “แม็คเคนนี่” ติดโควิด-19

ยูเวนตุส แถลงสถานการณ์โควิดล่าสุด โดย เวสตัน แม็คเคนนี่ มิดฟิลด์เลือดมะกัน มีผลตรวจเป็นบวกจากการติดเชื้อไวรัสมรณะ ซึ่งเกิดขึ้นเพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังจากที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ติดเชื้อตัวนี้

ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี แถลงการณ์ยืนยัน เวสตัน แม็คเคนนี่ กองกลางชาวอเมริกัน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากผลการตรวจเป็นบวก โดยกลายเป็นนักเตะรายล่าสุดต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนัง ที่ติดเชื้อไวรัสมรณะ

ดาวเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกา ซึ่งย้ายจาก ชาลเก้ 04 มาเล่นกับทัพ "ม้าลาย" เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว เพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังจากที่ โรนัลโด้ ถูกระบุว่าติดโควิด  ทำให้ตอนนี้นักเตะต้องเข้ารับการกักตัวทันที และหมดสิทธิ์ลงเล่นเกมสุดท้ายพบ โครโตเน่ 
แถลงการณ์ของ "เบียงโคเนรี่" ระบุว่า "สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส ประกาศว่าในช่วงระหว่างที่มีการตรวจหาเชื้อตามมาตรการเฝ้าระวัง นักเตะของเรา เวสตัน แม็คเคนนี่ มีผลการตรวจเป็นบวกจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับการปฏิบัติตามกฎข้อบังครับ และมาตรการเฝ้าระวัง ทีมจะเข้าสู่การกักตัวในเย็นวันนี้ (วันพุธที่ 14 ต.ค.) ทันที"
"สำหรับในกระบวนการนี้จะอนุญาตให้ทุกๆ คนที่มีผลการตรวจเป็นลบสามารถที่จะลงฝึกซ้อมได้ตามปกติ และทำกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแข่งขันได้ แต่จะไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการติดต่อกับบุคคลภายนอกกลุ่ม โดยสโมสรจะทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอย่างต่อเนื่อง" แถลงการณ์ฉบับเดิม ระบุ

 

เคียซ่าลงประเดิม-โดนแดง! ยูเวนตุสเซ็งVARริบสกอร์แค่เจ๊าโครโตเน่

 

เฟเดริโก้ เคียซ่า ดาวเตะคนใหม่ นกอจากจ่ายให้เพื่อนทำสกอร์ ยังโดนใบแดงประเดิมลงเล่นนัดแรกอีกด้วย แถมทัพ "ม้าลาย" ยูเวนตุส ยังถูกวีเออาร์ยึดประตูคืน ทำจบเสมอ โครโตเน่ ทีมบ๊วยไป 1-1 แบ่งคะแนนกันไป ในการแข่งขันศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา

สนาม : สตาดิโอ เอ็นโซ่ ซีด้า

ศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา "ม้าลาย" ยูเวนตุส ก่อนเบรกทีมชาติไม่มีได้กัก เนื่องจาก นาโปลี คู่แข่งแมตช์ก่อนไม่เดินทางมาแข่ง อันเดรีย ปีร์โล่ นายใหญ่ทีมเยือน ไม่มี "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" ที่ติดโควิด ส่วนดาวเตะตัวใหม่ "เฟเดริโก้ เคียซ่า" ลงตัวจริงเกมแรกบุกบ้าน โครโตเน่ น้องใหม่ที่จมบ๊วยตอนนี้ โจวานนี่  สโตปป้า กุนซือเจ้าถิ่น ขอลูกทีมแย่งคะแนนให้ได้ มีตัวความหวัง "ซิมี่" ดาวซัลโวเซเรีย บี ปีก่อนล่าสกอร์

เจ้าถิ่นมีลุ้นนาทีที่ 5 ลูกา ชิการินี่ เล่นลุกเตะมุมสั้นทางซ้ายมาที่ มิลอส วูลิซ จับบอลลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลไปถูกเท้าผู้เล่นยูเว่ที่ยืนบล็อก แฉลบออกข้างเสาประตูแบบมีหวังเป็นสกอร์

โครโตเน่นำก่อนนาทีที่ 11 เปโดร เปเรย์ร่า ไหลบอลกลางสนามต่อไปที่ อาร์คาดิอุซ เรก้า วิ่งตามรับในเขตโทษทางซ้ายก่อนถูก เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เข้ามาย่ำที่เท้า กรรมการเป่าเป็นจุดโทษ ซิมี่ หัวหอกเจ้าบ้านหวดเข้าไป

ม้าลายตีเจ๊านาทีที่ 21 เดยัน คูลูเซฟสกี้ จ่ายบอลกลางสนามแทงมาที่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ลากบอลเข้าเขตโทษทางขวา ปาดมาหน้าปากประตูและเป็น อัลบาโร่ โมราต้า สไลด์ตัวจิ้มบอลระยะเผาขนเข้าซุกก้นตาข่ายสำเร็จ

ช่วงนาทีที่ 44 อาร์คาดิอุซ เรก้า เปิดบอลจากริมสนามทางซ้าย บอลกระดอนเลยดาวเตะม้าลายที่พยายามมาสกัดมาถึง เปโดร เปเรย์ร่า เก็บบอลแล้วซัดเต็มเท้า บอลเข้าหากรอบประตูแต่ จานลุยจิ บุฟฟอน นายทวารคนเก๋ายืนถูกที่รับได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอกัน 1-1

ยูเว่เกือบพลิกนำนาทีที่ 46 โรดดีโก้ เบนตากูร์ ยืนรอเก็บตกบอลเคลียร์ของแนวรับเจ้าบ้าน ก่อนเจ้าตัววิ่งมาซัดจังหวะเดียวนอกกรอบเขตโทษ บอลเลี้ยวหนีเสาด้านซ้ายไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เจ้าบ้านหวิดทำได้นาทีที่ 55 จูเนียร์ เมสซิอาส ได้บอลหน้ากรอเบขตโทษใช้ตัวบัง ดีดต่อให้ ลูกา ชิการินี่ สอดมารับแล้วลากมายิงตรง บอลทิศทางเกือบเข้ากรอบแต่แอบไซต์ก้อยออกหลังไปเล็กน้อย

เบี่ยงโคเนรี่เซ็งหนักนาทีที่ 60 เฟเดริโก้ เคียซ่า ออกแรงวิ่งเข้าไปหวังแย่งบอลแต่กลับไปเหยียบหน้าแข้ง ลูกา ชิการินี่ เชิ้ตดำไม่รอช้าชักใบแดงตะเพิดพ้นสนามในเกมแรกของเจ้าตัวกับทีมม้าลาย

ม้าลายชวดนำนาทีที่ 63 เดยัน คูลูเซฟสกี้ วางบอลฟรีคิกริมสนามทางซ้าย บอลมาในเขตโทษ อัลบาโร่ โมราต้า สปีดมาโหม่งสะบัดไปที่เสาสอง โชคไม่ดีบอลกระแทกเสาอย่างจังกระดอนเข้าหาตัว อเล็กซ์ คอร์ดาซ นายทวารโครโตเน่ รับอยู่มือ

ถัดมานาทีที่ 76 ฮวน กวาดราโด้ เลี้ยงบอลลุยมาทางเขตโทษด้านขวา เปิดบอลเรียดกึงยิงกึ่งผ่าน อัลบาโร่ โมราต้า แหย่เท้าจิ้มเปลี่ยนทางเข้าตุงตาข่าย กรรมการฟังสัญญานวีเออาร์ชี้เป็นลูกล้ำหน้าของกองหน้ากระทิงดุ จบเกม ยูเวนตุส ทำได้แค่เสมอ โครโตเน่ 1-1 แบ่งคะแนนกันไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

โครโตเน่ (3-5-2): อเล็กซ์ คอร์ดาซ,ลิซานโดร มิกัลลัน,ลูก้า มาร์โรเน่,เซบาสเตียโน่ ลูแปร์โต้ (วลาดิเมียร์ โกเลมิค น.83),เปโดร เปเรย์ร่า (อันเดรีย ริสโปลี น.74),ซัลวาตอเร่ โมลิน่า (จาโคโป เปตริซซิโอเน่ น.87),ลูกา ชิการินี่,มิลอส วูลิซ (ลูก้า ซิลิการ์ดี้ น.74),อาร์คาดิอุซ เรก้า,จูเนียร์ เมสซิอาส,ซิมี่

ยูเวนตุส (3-4-2-1): จานลุยจิ บุฟฟอน,ดานิโล่,เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่,เมริห์ เดมิรัล,เฟเดริโก้ เคียซ่า,โรดดีโก้ เบนตากูร์,อาร์ตูร์ (อาเดรียง ราบิโอต์ น.80),จานลุยก้า ฟราบอตต้า,เดยัน คูลูเซฟสกี้ (เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ น.69),มาโนโล่ ปอร์ตาโนวา (ฮวน กวาดราโด้ น.56),อัลบาโร่ โมราต้า

รัฐมนตรีอิตาลีสงสัยโรนัลโด้ฝ่าฝืนมาตรการโควิด-19

วินเซนโซ สปาดาฟอรา รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของอิตาลี ตั้งข้อสงสัยว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ อาจละเมิดมาตรการป้องกันโควิด-19 หลังบินกลับมาตูรินแล้ว

ซีอาร์เซเวนมีผลตรวจโควิด-19ออกมาเป็นบวก ในระหว่างร่วมแคมป์ทีมชาติโปรตุเกส และเขาจึงตัดสินใจบินกลับมากักตัวที่อิตาลีภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ 

อย่างไรก็ดี สปาดาฟอราตั้งข้อสังเกตว่า การเดินทางกลับมาของโรนัลโด้อาจฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด-19 เพราะไม่มีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขอิตาลีอยู่ในเครื่องบินลำนั้นด้วย

 

งานงอกอีกแล้ว!รมต.อิตาลีสงสัยโด้แหกกฎโควิด

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ งานงอกซะแล้วหลังจากโดนรมต.กีฬาอิตาลี ตั้งข้อสงสัยอาจจะแหกกฎมาตรการป้องการการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังนักเตะเดินทางจากดินแดนฝอยทอง กลับเมืองมะกะโรนี ทั้งๆ ที่มีเชื้อไวรัสมรณะ ด้าน ยูเวนตุส ปกป้องทันทียืนยัน "ซีอาร์7" ได้รับไฟเขียวจากสาธารณสุขให้กลับบ้านในอิตาลีได้

วินเชนโซ่ สปาดาโฟร่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาของประเทศอิตาลี เชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนัง "ม้าลาย" ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา  แหกมาตรการกักตัวเนื่องจากเดินทางจากประเทศโปรตุเกส กลับไปอิตาลี

กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากผลตรวจเป็นบวกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาขณะที่อยู่รับใช้ทัพ "ฝอยทอง" ทำให้นักเตะขึ้นเครื่องบินพยาบาลกลับไปยังบ้านพักส่วนตัว เพื่อเข้ารับการกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ

อย่างไรก็ตาม สตาร์ลูกหนังวัย 35 ปี ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางกลับไปยังบัานพักในอิตาลี ทั้งๆ ที่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยเหตุนี้ สปาดาโฟร่า เชื่อว่าพฤติกรรมของ โรนัลโด้ อาจละเมิดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 "หากไม่มีเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุข ผมคิดว่าเขาฝ่าฝืนมาตรการป้องกันความปลอดภัย (จากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19)"

ขณะที่ ยูเวนตุส แถลงการณ์ยืนยันปกป้อง โรนัลโด้ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอนุญาตให้สตาร์ลูกหนังของพวกเขาเดินทางกลับมาดินแดนมะกะโรนี "คริสเตียโน่ โรนัลโด้กลับมาประเทศอิตาลีด้วยเครื่องบินของเจ้าหน้าที่การแพทย์ตามการร้องขอจากนักเตะไปยังหน่วยงานด้านสาธารณสุข และเขาจะเข้ารับการกักตัวอยู่ที่บ้านทันที"

 

แฉยูเว่ทุ่มเงินมหาศาลพร้อมโด้คว้า “เอ็มบัปเป้”

สื่อดังในอิตาลี รายงานว่า ยูเวนตุส พร้อมทุ่มเงินเป็นสถิติโลกรวมทั้งใช้ไม้เด็ดนำ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอที่จะยื่นให้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เพื่อพิจารณาปล่อย คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มาสวมชุด "ม้าลาย" ช่วงซัมเมอร์ปี 2021

ยูเวนตุส ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เตรียมสร้างความตื่นตะลึงด้วยการทุ่มเงินเป็นสถิติโลกจำนวน 360 ล้านปอนด์ (ราว 13,680 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัว คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กองหน้าฟอร์มฮอต ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จากการเปิดเผยของ ตุ๊ตโต้สปอร์ต สื่อดังในประเทศอิตาลี

 เอ็มบัปเป้ เป็นที่หมายปองของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ในขณะที่ "เปแอสเช" ก็ตกเป็นข่าวว่าพร้อมที่จะปล่อย หัวหอกทีมชาติฝรั่งเศส ออกจากสโมสรในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 เช่นกัน ส่งผลให้ทีมดังๆ อย่าง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด พยายามจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ ยูเวนตุส ก็สนใจอยากได้ เอ็มบัปเป้ เช่นกันแต่ด้วยความที่นักเตะมีค่าเหนื่อยสูงมาก ทำให้ "ม้าลาย" ปิ๊งไอเดียที่จะใช้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส เป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอเพื่อยื่นให้ แซงต์-แชร์กแมง พิจารณาในการปล่อย ดาวเตะเลือดเฟร้นช์ ออกมา

เหตุผลสำคัญที่ ยูเว่ ต้องทำแบบนี้เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายของ สตาร์ดังเจ้าของบัลลง ดอร์ 5 สมัย กับ เอ็มบัปเป้ หากทั้งสองคนอยู่ร่วมทีมเดียวกัน จึงจำเป็นที่จะใช้ "ซีอาร์ 7" ซึ่งได้รับค่าเหนื่อย 540,000 ปอนด์ (ราว 20.52 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ เป็นไม้เด็ดที่อาจจะมัดใจ ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลีก เอิง ได้

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีหลายสื่อรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สนใจที่จะดึงตัว อดีตสตาร์ดัง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ซึ่งพร้อมที่จะอำลา ยูเว่ หลังหมดสัญญาในปี 2022 มาร่วมทีม และเกือบสำเร็จเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่สุดท้ายการย้ายทีมไม่สำเร็จ

 

แรชฟอร์ดชอบยิงสิงห์!เกร็ดน่ารู้เกมบิ๊กแมตช์”แมนยู VS เชลซี”

 ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่น่าสนใจสุดในค่ำคืนนี้ หนีไม่พ้นเกมบิ๊กแมตช์ ณ สังเวียนแข้ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะดวลกับ เชลซี ซึ่งทาง "ปีศาจแดง" ก็มุ่งมันที่จะคว้าชัยชนะต่อเนื่อง หลังเกมล่าสุดบุกไปอัด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ขณะที่ "สิงห์บลูส์" ก็หวังที่จะกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ หลังสุดสัปดาห์ก่อนทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 โดยมาเสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนี่คือเกร็ดน่าสนใจเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเกม
 เฮด-ทู-เฮด
 – หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะได้ ก็จะกลายเป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1965 (ยุคกุนซือ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้) ที่ชนะ เชลซี ในลีกได้ 3 นัดติด
 – เชลซี บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้มา 7 นัดติด (เสมอ 4, แพ้ 3) ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด์ ไม่ได้ยาวนานสุดของพวกเขา นับตั้งแต่ที่เคยไร้ชัย 16 นัดติด ช่วงระหว่างเดือนกันยายน ปี 1920 ถึง เดือนมกราคม ปี 1957
 – อย่างไรก็ตาม เชลซี เป็นเพียงสโมสรเดียวที่มีสถิติชนะมากกว่าแพ้ ในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค พรีเมียร์ลีก (เชลซี ชนะ 18 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ครั้ง)

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 – หากแพ้เกมนี้ ก็จะถือเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ออกสตาร์ตเกมลีก 3 นัดแรกที่บ้านของฤดูกาล และแพ้รวด โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1930 ซึ่งซีซั่นนั้น (1930/31) "ปีศาจแดง" จบด้วยการครองบ๊วย
 – หนล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3 นัดติด เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1979
 – ถ้าไม่ชนะเกมนี้ ก็จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 5 นัดติด (รวม 2 นัดจากซีซั่นที่แล้ว) ซึ่งจะกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสรทันที
 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพเลือดฝอยทอง มีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 20 ลูก (ยิง 11, แอสซิสต์ 9) จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 18 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่เหนือกว่าผู้เล่น "ปีศาจแดง" ทุกคน นับตั้งแต่ที่เขาลงเล่นนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
 – มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าความเร็วสูง ทำไปถึง 4 ประตู จาก 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ เชลซี (รวมทุกรายการ) ซึ่งก็รวมถึงการเหมาสองตุงในเกมเปิดซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ต้อน "สิงห์บลูส์" 4-0
 – นอกจากนี้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีสถิติคุมทีมชนะ 4 จาก 6 นัดที่เจอกับ เชลซี (เสมอ 1, แพ้ 1)
 

 เชลซี
 – เชลซี เสมอ 4 จาก 8 เกมที่ลงเตะรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ (ชนะ 3, แพ้ 1)
 – "สิงห์บลูส์" คว้าชัยได้ถึง 5 ครั้ง จากการลงเตะเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก 6 นัดแรกยุคกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทว่า 15 นัดหลังจากนั้น พวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ 5 หน (เสมอ 4, แพ้ 6)
 – เชลซี ยุค แลมพาร์ด เสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปถึง 63 ลูก จากการลงเตะ 43 นัด โดยเฉลี่ยตกนัดละ 1.5 ลูก ซึ่งถือเป็นเรตที่เลวร้ายที่สุดเหนือกุนซือ เชลซี ทุกคนในประวัติศาสตร์สโมสร (นับเฉพาะกุนซือที่คุมถาวร)
 – นอกจากนี้ นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เสียประตูเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 42 ลูก ซึ่งมากกว่าทุกทีมในลีก
 – นับเฉพาะปี 2020 มีเพียงแค่ อาร์เซน่อล (15 แต้ม) เท่านั้น ที่ทำคะแนนหลุดมือจากสถานการณ์ที่กำลังจะชนะ มากกว่า เชลซี (13 แต้ม)
 – นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกเลือดเบียร์ ทำประตูในเกมลีกไปแล้วถึง 30 ลูก ซึ่งในบรรดา 5 ลีกใหญ่ยุโรป เขาเป็นรองเพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค), ชิโร่ อิมโมบิเล่ (ลาซิโอ) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส) เท่านั้น

ปูด!แมนยูสนดึงดาวรุ่ง “นิวฟิโก้” เสริมแกร่ง

สื่อผู้ดี ตีข่าว "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนใจอยากได้ หลุยส์ โกเมส ดาวเตะความหวังใหม่วงการลูกหนังแดนฝอยทอง จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน มาเสริมทัพ
   
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คาดว่ากำลังจะได้นักเตะจากสปอร์ติ้ง ลิสบอน อีกราย โดยตอนนี้มีรายงานว่า "ปีศาจแดง" สนใจอยากได้ตัว หลุยส์ โกเมส แข้งดาวรุ่งพุ่งแรง จากการเปิดเผยของ เดอะ มิร์เรอร์ สื่อดังในเมืองผู้ดี

ดาวเตะวัย 16 ปี ซึ่งเพิ่งจะเซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจาก แมนฯ ยูไนเต็ด โดย โกเมส ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะวันเดอร์คิดของวงการลูกหนังแดนฝอยทอง ถึงขนาดได้รับสมญานามว่า "นิว หลุยส์ ฟิโก้" เลยทีเดียว

แม้ว่า โกเมส จะเซ็นสัญญา 5 ปีกับ สปอร์ติ้ง ก็ตาม แต่ "เดอะ มิร์เรอร์" รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะคว้าดาวรุ่งแห่งอนาคตรายนี้มาร่วมทีม โดยคาดว่าค่าตัวของเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านปอนด์ (ราว 532 ล้านบาท)

ทั้งนี้ สโมสรเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย มีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน โดย "ปีศาจแดง" ดึงนักเตะจากยอดทีมแดนฝอยทองมาแล้วหลายคนทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, มาร์กอส โรโฮ, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ หลุยส์ นานี่ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

สุดปัง! โรนัลโด้อวดทรงผมใหม่ช่วงกักตัว

ซูเปอร์สตาร์โปรตุกีสของทัพเบียงโคเนรี อวดโฉมทรงผมใหม่สุดแปลกตาในช่วงที่เขากักตัวจากการติดเชื้อโควิด-19

คริสเตียโน โรนัลโด้ แนวรุกตัวเก่งของ ยูเวนตุส อวดทรงผมใหม่ลงอินสตาแกรม โดยมาในทรงสกินเฮดสุดแปลกตา

ซูเปอร์สตาร์ทัพเบียงโคเนรี อยู่ในระหว่างกักตัวหลังจากเขาถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เขาต้องถอนตัวจากทีมชาติโปรตุเกสชุดทำศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีกกับสวีเดน โดยเขาจะพลาดการลงสนามอีกอย่างน้อยหนึ่งนัด และกำลังลุ้นจะกลับมาดวลกับ ลิโอเนล เมสซี ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์​ ลีก ที่ยูเวนตุสจะพบกับบาร์เซโลนาวันที่ 28 ตุลาคมนี้

โดยระหว่างช่วงกักตัว CR7 สร้างเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ ให้แฟนบอล หลังอัพรูปลงอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา เผยโฉมทรงผมใหม่ในทรงสกินเฮดสุดแปลกตา

"ความสำเร็จในชีวิตไม่ใช่เครื่องวัดสิ่งที่คุณไขว่คว้ามาได้ แต่เป็นสิ่งกีดขวางที่คุณก้าวข้ามผ่านมาได้ต่างหาก" โรนัลโด้ โพสต์อินสตาแกรม

มีคนพูดโกหก!โรนัลโด้ยันชัดทำตามกฎเดินทางเข้าอิตาลี

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ประกาศชัด ไม่ได้ทำผิดกฎของอิตาลีแม้แต่นิดเดียวในการเดินทางกลับมาที่ประเทศอิตาลี พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องอยู่ห่างกับครอบครัว และมันก็ทำให้ตนเจ็บปวดสุดๆ

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิง ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กล่าวว่าตนไม่ได้ละเมิดกฎของประเทศอิตาลีในกรณีที่เดินทางกลับมายังแดนมะกะโรนีแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ โรนัลโด้ ตกเป็นข่าวดังจากการที่เขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตอนไปอยู่กับทีมชาติโปรตุเกส โดยเมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งเดินทางกลับไปที่ อิตาลี เพื่อรอช่วยต้นสังกัดในตอนที่หายแล้ว แต่ วินเชนโซ่ สปาดาโฟร่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาของอิตาลีตั้งประเด็นว่าแข้งวัย 35 ปี อาจจะละเมิดกฎถ้าหากเดินทางเข้าประเทศโดยที่ไม่ได้รับการรับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นกรณีพิเศษ

"ผมไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ ทั้งนั้น พวกเขาบอกว่าผมละเมิดกฎของอิตาลี แต่มันเป็นการโกหกทั้งเพ ผมได้คุยกับทีมของผม และเราก็มีความรับผิดชอบที่จะทำเรื่องต่างๆ ในทางที่ถูกต้อง ทุกอย่างถูกปฏิบัติในทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือคนอิตาลีคนหนึ่งพูดโกหก แต่ผมก็ไม่ขอบอกหรอกนะว่าเขาชื่อว่าอะไร ผมทำตามมาตรการทุกขั้นตอน" โรนัลโด้ ระบุ

อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด เสริมว่าตอนนี้ต้องอยู่คนละห้องกับครอบครัว และมันก็ทำให้ตนปวดใจสุดๆ "ผมอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนลูกๆ ของผมก็อยูกอีกชั้น ผมจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีก 10 วันต่อจากนี้ มันทำใจยอมรับได้ยากมากๆ ที่จะไม่สามารถติดต่อกับพวกเขาได้ แต่เราก็ต้องทำตามกฎ"