แชมป์เก่าฟอร์มโหดส่ง 4 แข้งนำทัพทีมยอดเยี่ยมไทยลีกแมตช์ที่6

ศึกฟุตบอลไทยลีกแมตช์ที่ 6 จบลงเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับฟอร์มอันสวยหรูของทัพกว่างโซ้งที่ส่ง 4 แข้งนำทัพทีมยอดเยี่ยม แต่ละตำแหน่งจะมีใครบ้างมาดูกัน

ผู้รักษาประตู : ดัง วาน ลัม (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ในเกมที่ กิเลนผยอง เปิดรังเจ๊า เขี้ยวสมุทร แบบไร้สกอร์ ส่วนหนึ่งต้องยกให้กับ ดัง วาน ลัม ที่มีจังหวะได้โชว์ซูเปอร์เซฟช่วย เอสซีจี เมืองทองฯ เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่หลายจังหวะจนสามารถเก็บคลีนชีตได้ในเกมนี้

กองหลัง : อิรฟาน ฟานดี้ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

เล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งมากสำหรับ อิรฟาน ฟานดี้ สามารถหยุดเกมรุกทางฝั่งซ้ายของเจ้าถิ่น การท่าเรือ ได้อย่างอยู่หมัด จังหวะปะทะตัวต่อตัวก็ทำได้ดี ผู้เล่นตัวรุกผ่านได้ยาก ที่สำคัญการยืนแผงหลังร่วมกับ วิคเตอร์ กาโดโซ่ และอันเดรส ตูเญส ทำให้หลังบ้าน บีจี กลายเป็นปราการหินที่แกร่งเอามากๆ

กองหลัง : ยู จุน ซู (พีที ประจวบ เอฟซี)

ปราการหลังชาวเกาหลีใต้ยืนปักหลักแนวรับให้ พีที ประจวบ ได้อย่างยอดเยี่ยม คอยประกบดาวยิงตัวเก่ง บอสโควิช ไม่ให้หาโอกาสยิงได้ง่ายๆ แถมจังหวะเล่นลูกกลางอากาศก็ทำได้ดี ช่วยให้ พีที ประจวบ เก็บชัยชนะนัดแรกของฤดูกาล พร้อมกับทำคลีนชีตได้สำเร็จ

กองหลัง : ศราวุธ อินทร์แป้น (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

ยืนคุมแผงหลังได้อย่างแข็งแกร่งในเกมที่ต้องรับมือกับเกมรุกของเจ้าถิ่นอย่าง นครราชสีมา มาสด้า แต่ทว่าทาง ศราวุธ ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมช่วย กว่างโซ้ง เก็บชัยชนะ พร้อมคลีนชีตได้สำเร็จ

กองกลาง : โชติภัทร พุ่มแก้ว (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นต่อเนื่องจากเกมที่แล้วสำหรับ โชติภัทร ทั้งจังหวะการขึ้นเกมทางฝั่งขวาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ทะลุทะลวงเข้าเขตโทษลุ้นยิงประตูก็มีให้เห็นในเกมนี้ ก่อนที่สุดท้ายแล้วสามารถทำแอสซิสต์ให้กับ อัครวินท์ สวัสดี ทำประตูได้อีกด้วย

กองกลาง : ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (โปลิศ เทโร เอฟซี)

เป็นอีกหนึ่งแข้งที่โชว์ฟอร์มเด่นมาตั้งแต่นัดที่แล้วกับ การท่าเรือ สำหรับ ปฐมพล เป็นนักเตะที่มีความเร็ว และคล่องตัว บวกกับความกล้าเลี้ยง กล้าลุย ช่วยป่วนแนวรับ ราชบุรี อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งมาทำแอสซิสต์ช่วยให้ทีมได้ประตูขึ้นนำ ราชันมังกร ก่อนจบเกมด้วยผลเสมอ 1-1

 กองกลาง : สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

 การเล่นของ สารัช ทำให้แดนกลางของ บีจี ปทุม แน่นขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อได้เล่นร่วมกับ สุมัญญา และฐิติพันธ์ นอกจากนี้การขึ้นเกมของ เจ้าตังค์ ก็ทำได้โดดเด่นเลยทีเดียวมีจังหวะวางบอลสร้างสรรโอกาสให้เพื่อนหลายครั้ง ส่วนเกมรับก็ช่วยทีมเอาไว้ได้หลายครั้ง ช่วยให้ เดอะ แรบบิท บุกเอาชนะ การท่าเรือได้ 1-0

กองกลาง : อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)

หากจะหานักเตะที่โดดเด่นที่สุดของทัพ แข้งเทพ ในเกมกับ สุพรรณบุรี หนึ่งในนั้นก็คงต้องยกให้ อานนท์ ที่เป็นผู้ยิงประตูชัยช่วย ทรู แบงค็อก เก็บสามแต้มสำคัญ แถมการกลับมาคราวนี้ดูเหมือนเจ้าตัวจะมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และที่ยังคงไว้คือความคล่องตัว พร้อมกับสกิลการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

กองหน้า : อัครวินท์ สวัสดี (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

 ในเกมนี้ถือว่า อัครวินท์ เป็นอีกหนึ่งแข้งของ สิงห์ เชียงราย ที่โดดเด่นไม่น้อย โดยเฉพาะจังหวะเกมบุกที่มีการเปิดบอลสร้างสรรโอกาสให้เพื่อนได้อย่างยอดเยี่ยมหลายครั้ง แถมเกมนี้เจ้าตัวก็ยังก็ยังทำได้ 1 ประตูอีกด้วย

กองหน้า : เจนรบ สำเภาดี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)

 การมาของ เจนรบ แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ลงสนามเล่นไทยลีกเกมแรกให้กับ บีจี ปทุม ก็สามารถยิงประตูแรก และเป็นประตูชัยได้ทันที แถมการเล่นร่วมกับเพื่อนในทีมก็ทำออกมายอดเยี่ยมเอามากๆ

กองหน้า : บิลล์ โรซิมาร์ (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

ด้วยผลงานการซัดแฮตทริกช่วยทัพ กว่างโซ้ง บุกเอาชนะ นครราชสีมา มาสด้า 4-0 โดยที่เกมนี้ บิลล์ โรซิมาร์ อาศัยทั้งความแข่งแกร่ง การจบสกอร์ที่เฉียบคม และไหวพริบของการเป็นศูนย์หน้าได้อย่างครบถ้วน แถมลูกสุดท้ายจังชิงจังหวะแย่งบอลจากเท้า แซมมวล เข้าไปยิงประตูช่วงทดเจ็บได้อีกด้วย

ตารางบอลวันนี้! เจลีกน่าดู บอลไทยน่าเชียร์ ลุ้นแมนยูกู้หน้า เช็กโปรแกรมบอลวันนี้+ช่องถ่ายทอดสด

วันนี้ศึกเจลีก ญี่ปุ่นเชียร์ทีมแข้งไทย ชิมิสึ เอส-พัลส์ และ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ลงบู๊ ขณะที่พรีเมียร์ลีกลุ้นแมนฯ ยูไนเต็ดเก็บชัยกู้ชื่อ นอกจากนี้ยังมีกัลโช่ เซเรีย อา, ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา และ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ให้ตามเชียร์ เรามีโปรแกรมฟุตบอลวันนี้ พร้อมช่องถ่ายทอดสดฟุตบอลมาฝากแฟนบอลที่ต้องการดูบอลสด
    โปรแกรมเจ ลีก ญี่ปุ่น

    12:00 น. นาโกย่า แกรมปัส พบ ชิมิสึ เอส-พัลส์ >>> YouTube Siamsport
    16:00 น. อูราวะ เรด ไดมอนส์ พบ โยโกฮาม่า เอฟซี
    17:00 น. วิสเซล โกเบ พบ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร >>> ช่อง 9 MCOT

    โปรแกรมไทยลีก 1

    17:45 น. เอสซีจี เมืองทองฯ พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี >>> True4U
    18:00 น. โปลิศ เทโร เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี >>> ทรูสปอร์ต เอชดี 3
    19:00 น. ตราด เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี >>> ทรูวิชั่นส์ 357
    20:00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ สุพรรณบุรี เอฟซี >>> True4U

    โปรแกรมไทยลีก 2

    17:45 น. ลำปาง เอฟซี พบ ขอนแก่น เอฟซี >>> ทรูสปอร์ต 6
    18:00 น. ไทยยูเนี่ยน สมุทรสาคร เอฟซี พบ หนองบัว พิชญ เอฟซี >>> ทรูวิชั่นส์ 358
    19:00 น. ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด >>> ทรูสปอร์ต 7
    19:00 น. อุทัยธานี เอฟซี พบ เชียงราย ยูไนเต็ด >>> ทรูสปอร์ต 5
    20:00 น. เกษตรศาสตร์ เอฟซี พบ ราชนาวี เอฟซี >>> ทรูสปอร์ต 6

    โปรแกรมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
   
    18:30 น. ไบรท์ตัน พบ แมนฯ ยูไนเต็ด >>> PPTV HD, TPF HD 1 (600)
    21:00 น. คริสตัล พาเลซ พบ เอฟเวอร์ตัน >>> TPF HD 1 (600)
    23:30 น. เวสต์บรอมวิช พบ เชลซี >>> TPF HD 1 (600)
    02:00 น. เบิร์นลี่ย์ พบ เซาธ์แฮมป์ตัน >>> TPF HD 1 (600)

“วีระเทพ”สุดปลื้มเมืองทองฯคว้าชัยเก็บสามแต้มล้ำค่า

ควันหลงหลังเกมที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ด้วยสกอร์ 2-1 โดยได้ประตูจาก แดร์เล และ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จ

หลังเกมทางด้าน วีระเทพ ป้อมพันธุ์ กองกลางจอมเทคนิคของทีมที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ออกมาเผยว่า "มันเป็นเกมที่ยาก ราชบุรี คือทีมที่แข็งแกร่ง แต่เราเองช่วยกันเล่น ช่วยกันสู้ และได้ 3 คะแนน ที่ล้ำค่า ขอบคุณแฟนๆ ทุกคน ทั้งที่มาเชียร์ในสนาม รวมไปถึงจากทางบ้าน หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้เห็น เมืองทองฯ กลับมาชนะอีกครั้ง"

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ เอสซีจี เมืองทอง จะบุกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลา18.00 น.

แข้งไทยผลงานเยี่ยมติดมา 7 นำทีมยอดเยี่ยมไทยลีกแมตช์ที่5

หลังจากพักเบรคโควิดไปหลายเดือนในที่สุดฟุตบอลไทยลีกก็ได้กลับมาแข่งขันกันต่อในแมตช์ที่ 5 และนี่คือรายชื่อผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์
ผู้รักษาประตู : พีระพงษ์ เรืองนินท์ (สุโขทัย เอฟซี)

หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ สุโขทัย เอฟซี คว้าชัยชนะในแมตช์รีสตาร์ทต้องยกให้ พีระพงษ์ ที่สามารถป้องกันลูกยิงของ เอสซีจี เมืองทองฯ เอาไว้ได้หลายครั้ง และนอกจากนี้ประตูชัยที่ทีมได้ก็มาจากจังหวะที่เจ้าตัวออกบอลเร็วให้ อิ๊บสัน เมโล่ หลุดไปดวลกับเกมรับ กิเลนผยอง ก่อนพังประตูชัยในที่สุด

กองหลัง : นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ (สุโขทัย เอฟซี)

ในเกมกับที่พบกับ เอสซีจี เมืองทองฯ ถือได้ว่า นุกูลกิจ คือหัวใจสำคัญในแนวรับของ ค้างคาวไฟ ด้วยผลงานที่โดดเด่นทั้งการตามประกบศูนย์หน้าอย่าง แดร์เลย์ ก็ทำได้ดี นอกจากนี้การยืนตำแหน่งก็ยอดเยี่ยมบล็อกลูกยิงของแนวรับ กิเลนผยองไว้หลายครั้ง และที่จะเห็นได้ชัดคือการเคลียร์บอลจากเส้นประตูจนทำให้ทีมเก็บคลีนชีตไปในที่สุด

กองหลัง : เอเลฟ วิเอรา ซานโตส (สุพรรณบุรี เอฟซี)

สำหรับ ซานโตส ถือว่ามีการยืนปักหลักคุมแผงหลังของสุพรรณบุรีได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถช่วยทีมเก็บคลีนชีตในเกมกับ สวาทแคท ได้สำเร็จ แม้ว่าทีมจะเสียปราการหลังกัปตันทีมอย่าง เจ้าเชน จากอาการบาดเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งก็ตาม

กองหลัง : ทัตซูยะ ซาไก (สมุทรปราการ ซิตี้)

ทัตซูยะ ปราการหลังเลือดซามูไรช่วยทีมให้รอดพ้นจากการเสียประตูเอาไว้ได้หลายครั้ง อีกทั้งยังมีจังหวะเข้าสกัดบอล และทำลายเกมของทีมเยือนอย่าง ระยอง เอฟซี จนสามารถช่วย เขี้ยวสมุทร เก็บคลีนชีต และเป็นชัยชนะนัดแรกในซีซั่นนี้ของ สมุทรปราการ อีกด้วย

กองกลาง : โชติภัทร พุ่มแก้ว (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

โชว์ฟอร์มการเล่นได้โดดเด่นมากๆ สำหรับ โชติภัทร พุ่มแก้ว โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางฝั่งขวา สามารถป่วนแนวรับ ต่อพิฆาต ได้อย่างน่ากลัว แถมเกมนี้เจ้าตัวก็เป็นผู้โขกประตูชัยช่วย สิงห์ เชียงราย เอาชนะ พีที ประจวบ 1-0 อีกด้วย

กองกลาง : ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (โปลิศ เทโร เอฟซี)

ในเกมกับ การท่าเรือ แม้จะมีปัญหาเรื่องไฟสนามดับช่วงท้ายเกม แต่หากพูดถึงภาพรวมตลอดทั้งเกมแล้วนั้นต้องยกให้ เจ้ามิกกี้ คือหนึ่งแข้งที่โดดเด่นมาก แม้จะไม่ได้ทำประตู แต่ก็มีโอกาสสร้างสรรประตูได้หลายครั้ง และเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้ ปฐมพล มีพื้นเล่นเจ้าตัวก็จะโชว์ทักษะการเลี้ยงบอลป่วนแนวรับ สิงห์ เจ้าท่า ได้อย่างดุดันสุดๆ

กองกลาง : ปานเดชา เงินประเสริฐ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

โดดเด่นไม่น้อยสำหรับ ปานเดชา เงินประเสริฐ ในเกมกับ นครราชสีมา มาสด้าฯ กับการคุมแดนกลางของ สุพรรณบุรี เล่นทั้งเกมรุกและรับได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเกมนี้เจ้าตัวก็เป็นคนที่ยิงประตูให้ทีมขึ้นนำก่อน 1-0 ด้านเกมรับก็โดดเด่นไม่แพ้กันสามารถตัดเกม และทำลายจังหวะเกมรุกของ โคราช ไว้ได้ตลอดทั้งเกมด้วยเช่นกัน

กองกลาง : สุริยา สิงห์มุ้ย (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด)

ผลงานเกมนี้ สุริยา ถือว่าเป็นอีกแข้งที่โดดเด่นของ สิงห์ เชียงราย การเติมเกมรุกทางด้านซ้ายถือว่าทำได้ดี มีโอกาสคลอสบอลสวยๆ ให้เพื่อนลุ้นพังประตูอยู่หลายจังหวะ เรื่องเกมรับเมื่อต้องมาเจอกับเพื่อนเก่าอย่าง วิลเลี่ยม เอ็นริเก้ ก็ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ปิดการขึ้นเกมของ วิลเลี่ยม ไว้อยู่หมัดเลยทีเดียว

กองหน้า : อิ๊บสัน เมโล่ (สุโขทัย เอฟซี)

นอกจากจะเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ สุโขทัย คว้าชัยชนะเหนือ เอสซีจี เมืองทองฯ แล้วนั้น ตลอดทั้งเกม อิ๊บสัน เมโล่ ก็มีจังหวะยิงอยู่หลายครั้ง แถมยังปั่นป่วนแนวรับทีมเยือนอยู่ตลอดทั้งเกมอีกด้วย

กองหน้า : กษิเดช เวทยาวงศ์ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

ฟอร์มเด่นเข้าตาไม่น้อยสำหรับ กษิเดช เวทยาวงศ์ กับการมีส่วนร่วมทั้ง 2 ประตูที่สุพรรณบุรีเอาชนะโคราช 2-0 โดยหนึ่งในนั้นคือการแหวกสามแนวรับทีมเยือนเข้าไปยิงประตูปิดเกมสุดสวย และนอกจากนี้ตลอดทั้งเกมเจ้าตัวก็ยังมีโอกาสจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อน พร้อมกับมีการหาจังหวะบวกสกอร์เพิ่มให้กับตัวเองอีกหลายจังหวะด้วยกัน

กองหน้า : แฮร์ลิสัน ไคออน (ชลบุรี เอฟซี)

ไคออน สร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจเมื่อมีส่วนร่วมกับทั้ง 3 ประตูที่ ฉลามชล ได้ในเกมที่เฉือนเอาชชนะ ตราด เอฟซี 3-2 โดยดาวยิงบราซิลเลี่ยนทำคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี พลิกสถานการณ์กลับมาเก็บชัยชนะไปได้สำเร็จ

สุโขทัยแบโผ27แข้งลุยไทยลีกประเดิมดวลเมืองทองฯ

"ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ประกาศชื่อ 27 แข้งบู๊ไทยลีก 2020 ด้าน "บาจโจ้" ลั่นพร้อมลุยมานานแล้ว แต่เสียดาย2เกมสำคัญต้องติดโทษแบน พร้อมประเดิมดวล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 12 ก.ย.นี้

ความเคลื่อนไหวของทีมสุโขทัย เอฟซี ล่าสุดก่อนเกมวันเสาร์ ที่ 12 กันยายน ที่จะเปิดบ้านรับ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประกาศผู้เล่นในสังกัดฤดูกาล 2020/2021 ทั้ง 27 คนหลังปิดตลาดซื้อ-ขาย รอบพิเศษแล้ว โดยมีจอห์น บาจโจ้ กองหน้าจากมาดากัสก้า สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ขณะที่แดนหน้ายังมีคู่หู เอวานโดร เปาลิสต้า และ อิบสัน เมโล เป็น 3 ประสานในแดนหน้า

ในส่วนของเกมรับ พีระพงษ์ เรือนนินทร์ ยังคงจะเป็นมือหนึ่งรักษาหน้าด่าน แต่ต้องขับเคี่ยวกับ อนุรักษ์ ชมภูพฤกษ์ นายด่านประสบการณ์สูงที่ทีมพึ่งเสริมเข้ามา ส่วนกองหลัง มีให้เลือกหลายคนทั้ง ซอ มินตุน แนวรับทีมชาติเมียนมา ศาสนพงษ์ วัฒยุชูติกูล ,นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ , ศิลา ศรีกำปัง, นรงฤทธิ์ บุญสุข , ปิยะราษฏร์ ลาจังหรีด เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร และที่เสริมเข้ามาล่าสุดอย่าง ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง

ส่วนกองกลาง ทีมงานเดิมยังอยู่กันครบ ทั้ง จุง เมียงโฮ กองกลางชาวเกาหลีใต้ ณัฐวุธ เจริญบุตร , คัพฟ้า บุญมาตุ่น , วรนาถ ทองเครือ ,พงศ์พัทธ์ หลิวรุ่งเรืองกิจ และที่เสริมเข้ามาใหม่อย่าง เดชา สอาดโฉม , มูฮำหมัดนาเซ กอและ ,กานต์พิชชา ชะนะการี และ ดิสดรณ์ พันธุ์จันทร์

สำหรับเกมไทยลีกนัดประเดิมคัมแบค นัดที่ 5  จอห์น บาจโจ้ ให้สัมภาษณ์ว่าทีมพร้อมเข้าสู่เกมแข่งขันที่รอคอยยาวนาน และดีใจกับแฟนบอลที่ได้สิทธิเข้าชมเกมแข่งขันในสนาม และได้ชมเกมที่สำคัญของทีม ทั้งนี้ในเกมที่สำคัญตนไม่สามารถลงแข่งขันได้ 2 เกมแข่งขันเพราะติดโทษแบน แต่ผมพร้อมจะสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม ส่วนกรณีที่เอวานโดร เปาลิสต้า กองหน้าบราซิเลี่ยน บาดเจ็บนั้น ตนขอให้เขาหายและกลับสู่ทีมโดยเร็ว เพราะพวกเราต้องการเขา

“โค้ชอั๋น”เชื่อ “ค้างคาวไฟ” ดีพอล้ม “กิเลนผยอง”

"โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ เชื่อ "ค้างคาวไฟ" มีดีพอเปิดบ้านล้ม "กิเลนผยอง"เอสซีจี เมืองทอง ประเดิม3แต้ม แม้ขาด"บาจโจ้" แต่เตรียมแผนรับมือไว้แล้ว

ความเคลื่อนไหวของทัพ"ค้างคาวไฟ"สุโขทัย เอฟซี ที่เตรียมเปิดสนามทะเลหลวง ต้อนรับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง"เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2020 นัดที่ 5 ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2563 เวลา 20.00 น.

ล่าสุด "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ หัวหน้าผู้ฝึกสอน สุโขทัย เอฟซี เปิดถึงความพร้อมของทีมว่า ในส่วนของตัวผู้เล่นจะขาดเพียง จอห์น บาจโจ้ ปีกตัวจี๊ดและกัปตันทีมเพียงรายเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นทุกคนฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามได้หมด ซึ่งแม้จะขาดตัวหลักอย่างบาจโจ้ไป แต่ตนเชื่อว่าคนอื่นๆสามารถที่จะลงมาทดแทนกันได้

 "แน่นอนว่า บาจโจ้ เป็นกำลังสำคัญของทีม การขาดเขาไปทีมอาจจลดประสิทธิภาพในเกมรุกไปบ้าง แต่เชื่อว่าคนอื่นทดแทนได้ เพราะเราเน้นระบบทีมเวิร์คมากกว่าตัวบุคคล และในช่วงเก็บตัวก่อนหน้านี้ เราได้ทดลองระบบการเล่นเพื่อเตรียมรับมือในเรื่องนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าทุกคนทำได้ดีและน่าพอใจ"

ส่วนเป้าหมายในเกมนี้ เฮดโค้ชค้างคาวไฟ กล่าวว่า "แน่นอนว่าการกลับมาของไทยลีกอีกครั้งหลังหยุดพักไปนาน รวมทั้งการได้เล่นในบ้าน เราตั้งเป้าที่ 3 คะแนนเพื่อประเดิมขวัญและกำลังใจให้กับทีม ซึ่งแม้ว่า เมืองทอง จะเป็นทีมที่ดี แต่ตนเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของทีมเรา รวมถึงผลงานในการฝึกซ้อมที่ผ่านมา ที่ทุกคนเข้าใจในแท็กติก และทำได้ดี เชื่อว่าเราจะคว้า 3 แต้มได้"

แซมบ้าคอนเนคชั่น! เมืองทองฮึดรัวครึ่งหลังเจ๊าชลบุรีดุเดือด2-2 ศึกไทยรัฐบิ๊กไฟว์

"กิเลนผยอง" ที่ตามหหลังไปก่อนในครึ่งแรก 2 ประตู ก่อนมาได้ แดร์เลย์ กับ วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ทำคนละลูก ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ โชว์ฮึดในครึ่งหลังไล่ตามตีเสมอชลบุรี เอฟซี 2-2 ในศึกศึกไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น คัพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2563

ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่อง ‘ไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น’ ประจำวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ย.63 ระหว่าง ‘กิเลนผยอง’ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ ‘ฉลามชล’ ชลบุรี เอฟซี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนไทยลีก 2020 กลับมารีสตาร์ทในวันเสาร์ที่ 12 ก.ย.63 นี้

ทั้งสองทีมเพิ่งเจอกันมาในศึกไทยลีก 2020 นัดที่ 4 เมื่อวันที่ 1 มี.ค.63 ซึ่งผลปรากฎว่า เอสซีจี เมืองทองฯ เปิดบ้านเฉือนเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 จากประตูชัยของ แดร์เลย์ ในนาทีที่ 18 ของเกม ก่อนที่ลีกสูงสุดของเมืองไทยจะพักการแข่งขันจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด

สำหรับรายชื่อผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมนี้ประกอบด้วย ผู้ตัดสิน : วิเชษฐ์ เทียนทอง, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : กิตติภณ มีพร, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : นิสสัน จันทร์เทพ และผู้ตัดสินที่ 4 : วิชาญ กลิ่นถาวร

เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที เป็นทางฝั่งของ ชลบุรี ได้ลุ้นประตูก่อนจากจังหวะที่ นพนนท์ คชพลายุกต์ เปิดบอลจากด้านขวาก่อนเป็น แฮร์ริสัน ไคออน ได้จังหวะขึ้นโหม่งโล่งๆ บอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นอีก 3 นาที  วัฒนา พลายนุ่ม ที่กำลังเคลียบอลจากในกรอบเขตโทษของตัวเอง แต่บอลไปติด ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ได้จังหวะเก็บบอล ก่อนแตะหลบ วัฒนา พลายนุ่ม แล้วได้จังหวะยิงบอลผ่านมือของ ดัง วาน ลัม เข้าประตูไป ช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี ออกนำ เอสซีจี เมืองทองฯ 1-0

นาทีที่ 18 เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกอย่างหนัก ก่อนที่จะเป็น พิชา อุทรา รับหน้าที่เปิดเตะมุมเข้ามา แล้วเป็น ไดสุเกะ ซาโตะ ได้จังหวะโหม่งๆโล่งๆ แต่บอลหลุดออกหลังไป

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 39 ทีมเยือนได้จังหวะวางบอลยาวจากกลางสนาม ก่อนเป็น แฮร์ริสัน ไคออน ได้จังหวะเอาบอลลงทางด้านซ้าย ก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษ แล้วจ่ายบอลผ่านหน้าประตูไปทางเสาสอง แล้วเป็น ดราแกน บอสโควิช วิ่งเข้ามายิงโล่งๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ ชลบุรี เอฟซี นำห่างเอสซีจี เมืองทองฯ 2-0

หลังจากนั้นทั้งสองทีมพลัดกันทำเกมรุก เพื่อหวังทำประตูเพิ่ม แต่ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน ครึ่งแรก เอสซีจี เมืองทองฯ ตามหลัง ชลบุรี เอฟซี 0-2

เริ่มครึ่งหลังมาเพียงนาทีเดียว เจ้าถิ่นเดินหน้าบุกเข้าใส่ ก่อนเป็น แดร์เลย์ ได้จังหวะล็อคบอลหลบ กฤษดา กาแมน ในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิง บอลผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เข้าประตูไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ไล่ตาม ชลบุรี เอฟซี 1-2

หลังจากนั้น เกมดำเนินถึง นาทีที่ 53 เจ้าถิ่นได้จังหวะบุกทางด้านขวา ก่อนที่ เพชรรัตน์ โชติปาละ เปิดบอลจากด้านขวาเข้าไป แล้วเป็นกองหลังชลบุรี เคลียร์บอลไม่ดี บอลไปเข้าทาง วิลเลี่ยน พ็อพพ์ ได้จังหวะยิงโล่งๆ เข้าไป ช่วยให้ เอสซีจี เมืองทองฯ ตามตีเสมอ ชลบุรี เอฟซี 2-2

ช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 82 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้จังหวะบุก ก่อนเป็น วิลเลี่ยน พ็อพพ์ พาบอลหลุดเข้ามาตรงกลางก่อนปาดไปให้กับ แดร์เลย์ ที่ยืนรอโล่งๆอยู่ฝั่งขวาในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ แดร์เลย์ จะหลบหนึ่งจังหวะและปั่นด้วยซ้าย บอลกำลังจะเข้าอยู่แล้ว ทว่า จูเนียร์ โลเปซ กองหลังของชลบุรี ยังตามมาสกัดไว้ได้ทันควัน

หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน  เอสซีจี เมืองทองฯ เสมอกับ ชลบุรี เอฟซี แบบสุดมัน 2-2 ในศึกฟุตบอลไทยรัฐ บิ๊กไฟว์ ปรีซีซั่น คัพ

สำหรับโปรแกรมไทยลีก 2020 นัดที่ 5 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน สุโขทัย เอฟซี ในวันเสาร์ที่ 12 ก.ย.63 ที่สนามทะเลหลวง สเตเดี้ยม จ.สุโขทัย เวลา 20.00 น. ส่วนชลบุรี เอฟซี จะเปิดบ้านพบกับ ตราด เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ย.63 ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม จ.ชลบุรี เวลา 18.00 น.

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ดัง วาน ลัม (ผู้รักษาประตู), สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (เพชรรัตน์ โชติปาระ แทน น.66), สรวิทย์ พานทอง (อติคุณ มีท้วม แทน น.79), ศฤงคาร พรหมสุภะ (ชาติชาย แสงดาว แทน น.85), วีระเทพ ป้อมพันธุ์ (วัฒนากร สวัสดิ์ละคร แทน น.46), วิลเลี่ยน พ็อพพ์, ไดสุเกะ ซาโตะ (ปรเมศย์ อาจวิไล แทน น.46), พัชรพล อินทนี, วัฒนา พลายนุ่ม (มาร์โก้ บัลลินี่ แทน น.79), แดร์เลย์, พิชา อุทรา (วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ น.46)

ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (ผู้รักษาประตู), นพนนท์ คชพลายุกต์, คาร์ลี่ เดอ มูร์ก้า (ทรงชัย ทองฉ่ำ แทน น.76), กฤษดา กาแมน, แฮร์ริสัน ไคออน (นิรันดร์ มีมาก แทน น.88), สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ภาณุพงศ์ พลซา แทน น.38), คาซูโตะ คูชิดะ, ดราแกน บอสโควิช (ธีรเทพ วิโนทัย แทน น.76), จูเนียร์ โลเปซ (ธีรพงศ์ ดีหามแห แทน น.88), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (สัมพันธ์ เกษี แทน น.58), ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว

เช็ครายชื่อปิดตลาดไทยลีกซื้อ-ขายรอบพิเศษใครย้ายไปไหนกันบ้าง?

หลังจากที่ตลาดซื้อ-ขาย นักเตะรอบพิเศษเปิดขึ้นในช่วงวันที่ 25 ส.ค. -7 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา 18 สโมสรระดับไทยลีก มีการโยกย้ายกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีนักเตะที่ย้ายเข้ามาร่วมทีมทั้งหมด 90 ราย และย้ายออก 110 ราย

โดยสโมสรที่มีนักเตะย้ายเข้ามากที่สุดคือ ระยอง เอฟซี  16 ราย  ส่วนที่ย้ายออกมากที่สุดคือ การท่าเรือ เอฟซี 14 ราย  ขณะที่สุพรรณบุรี เอฟซี นั้นไม่มีนักเตะย้ายเข้าเลยแม้แต่รายเดียว ส่วนนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มีย้ายออกน้อยที่สุด 1 รายเท่านั้น สำหรับ 18 สโมสรในไทยลีก ใครย้ายเข้า- ออกกันบ้างมาติดตามกันได้เลย …..!!!

ตราด เอฟซี

เข้า

– ทศพร ศรีเรือง (ระยอง เอฟซี)
– นรุตม์ชัย นิ่มบุญ (ชลบุรี เอฟซี)
– สุทธินันท์ พุกหอม (สุโขทัย เอฟซี)
– จีระพงค์ รักสงคราม (  พัฒนา เอฟซี )
– สิทธิโชค ภาโส (ชลบุรี เอฟซี) *ยืมตัว
– มงคล ทศไกร (สุโขทัย เอฟซี)
– ซัว ลา แมง (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด)
– วุฒิไกร ปาทาน (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
– มุสตาฟา อาซัดซอย (นครปฐม ยูไนเต็ด)
– โจนาธาน เฮส ( ปูซาน ไอพาร์ค )

ออก

– อาฟิค ยูนอส ( ยกเลิกสัญญา )
– การ์ฟา ดูโรซินมี (พีที ประจวบ เอฟซี)
– วรวุฒิ จันสีทา (เกษมบัณฑิต เอฟซี) *ยืมตัว
– คัง ซู อิล ( กลับไปเกาหลีใต้ )
– พงศ์พันธ์ พาระพันธ์ (เกษมบัณฑิต เอฟซี) *ยืมตัว
– รุ่งศักดิ์ คชรักษ์ (นครศรี ยูไนเต็ด)
– อิซวาน มาห์บุด (สมุทรปราการ ซิตี้)
– อาทิตย์ วิเศษศิลป์ (ลำพูน วอริเออร์ส)
– อนุชา สุกใส (บ้านค่าย ยูไนเต็ด)
– เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ (อุทัยธานี เอฟซี)
– อ่อง กุง มัน (ลำปาง เอฟซี)
– อาทิตย์ ดาวสว่าง (พีที ประจวบ เอฟซี)

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เข้า

– เรนาโต เคลิช (ซิบาเลีย)
– มาร์โค เชโปวิช ( เคย์เคอร์ ริเซสปอร์
– จิดี คานยุค ( ฮาโปเอลไฮฟา )
– อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ ( เมตาลุค เบคาเบด )

ออก

– จอง แจ ยอง (ซูวอน เอฟซี)
– อันเดรส ตูเญซ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– ริคาร์โด บูเอโน ( กลับบราซิลบ้านเกิด )
– เบร์นาร์โด กูเอสตา (ปูเอบลา)
– แม็กซ์ ปีเตอร์ คีร์เวย์ (อ่างทอง เอฟซี)
– พศวีร์ เหมือนมาตย์ (อ่างทอง เอฟซี)
– พงษ์ชนะ กองกิริต (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– กฤษณะ ดาวกระจาย (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– ศราวุธ มั่นจิตร (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– ชินวัฒน์ วงศ์ไชย (ระยอง เอฟซี) *ยืมตัว
– อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
– กฤตภาส วิชัยดิษฐ (ศุลกากร ยูไนเต็ด) *ยืมตัว

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

เข้า

– สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทองฯ)
– อันเดรส ตูเญซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
– ณัฐวุฒิ นามทิพย์ (เชียงใหม่ เอฟซี)
– ธรรมยุทธ ต้นคำ (ขอนแก่น เอฟซี)
– ศราวิน แสงรา (ขอนแก่น เอฟซี)
– เจนรบ สำเภาดี (การท่าเรือ เอฟซี)
– มิตซุรุ มารูโอกะ (เซเรโซ โอซาก้า)

ออก

– จักรพงษ์ ผลมาตย์ ( ยกเลิกสัญญา )
– สมยศ พงษ์สุวรรณ์ (ราชประชา เอฟซี)
– ไชยพฤกษ์ จิราจินต์ (ราชประชา เอฟซี)
– จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล (สมุทรปราการ ซิตี้)
– บาร์รอส ทาร์เดลี (สมุทรปราการ ซิตี้)
– ยูกิ บัมบะ (เชียงใหม่ เอฟซี)
– สุวรรณภัทร กิ่งแก้ว (ราชประชา)

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

เข้า

– ชยธร เทพสุวรรณวร (เอฟซี โตเกียว) *กลับจากสัญญายืมตัว

ออก

– พีรพัฒน์ ขมิ้นทอง (พีที ประจวบ เอฟซี)
– เจษฎากร ขาวงาม (หนองบัว พิชญ เอฟซี) *ยืมตัว
– ภัทรพล คำสุข (บีทียู ส.บุญมีฤทธิ์ ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– เนลสัน โบนิญา (การท่าเรือ เอฟซี) *ยืมตัว
– สุรเชษฐ์ งามทิพย์ *แขวนสตั๊ด
– สิทธิโชค กันหนู (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
– สิริพงษ์ คงเจ้าป่า (ชัยนาท ฮอร์นบิล) *ยืมตัว
– อนุศิษฏ์ เติมมี (ระยอง เอฟซี)

ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

เข้า

– จัสติน บาส ( ยอง อาแซด )
– สิทธิโชค กันหนู (ทรู แบงค็อก)
– สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (สมุทรปราการ ซิตี้)

ออก

– มูฮัมหมัดนาเซ กอและ (สุโขทัย เอฟซี)
– สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (การท่าเรือ เอฟซี)
– ธนาธร จันทร์เพ็ชร  (ลำปาง เอฟซี) *ยืมตัว

การท่าเรือ เอฟซี

เข้า

– ทิตาวีร์ อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
– ทิตาธร อักษรศรี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
– อดิศร พรหมรักษ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– เนลสัน โบนิญา (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

โปลิศ เทโร เอฟซี

เข้า

– ณัฐชนน สองด้วง (อุทัยธานี เอฟซี)
– อณิพงษ์ กิจคราม (การท่าเรือ เอฟซี)
– พิรชัช กุลลประภา (ฟอกซ์ ฮันท์)
– มงคล นามนวด (ชลบุรี เอฟซี)
– บาโบ มาร์ค แลนดรี (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– โมฮามาดู ซูมาเรห์ (ปะหัง เอฟเอ)

ออก

– ทิตาวีร์ อักษรศรี (การท่าเรือ เอฟซี)
– ทิตาธร อักษรศรี (การท่าเรือ เอฟซี)
– อนุศักดิ์ ใจเพชร (สุโขทัย เอฟซี)
– วงศ์ปกรณ์ เจริญทวีสุข (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– สิรวิช ภูถาวร (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– ชินพงษ์ รักษี (สุโขทัย เอฟซี)
– ชมพงศ์ สมจิตร์ (เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด)
– พงษกร วรกุลสวัสดิ์ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– ณัฐชนน สองด้วง (สงขลา เอฟซี)
– มาเธอุส อัลเวส ( ไม่ส่งชื่อ ลงทะเบียน)

สุพรรณบุรี เอฟซี

เข้า

-ไม่มี

ออก

– กิตติพต แดงอรุณ (นครศรี ยูไนเต็ด)
– ชุติพนธ์ ทองแท้ (พีที ประจวบ เอฟซี)
– ซูลฟาห์มี อารีฟิน

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ออก

– เจนรบ สำเภาดี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– ภิญโญ อินพินิจ (ราชประชา เอฟซี)
– อธิบดี เอติรัตน์ (เชียงใหม่ เอฟซี)
– ฉัตรมงคล ทองคีรี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– จตุรพัช สัทธรรม (สมุทรปราการซิตี้) *ยืมตัว
– อณิพงษ์ กิจคราม (โปลิศ เทโร เอฟซี)
– ธนากรณ์ แดงทอง (ศุลกากร ยูไนเต็ด)
– ชาคริต ระวันประโคน (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด)
– ยศวรรธน์ มนทา (สงขลา เอฟซี) *ยืมตัว
– พลวัต บัวชุม (เมืองเลย ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– ชาญชัย ผลจำเริญ (เมืองเลย ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– ปรัชญา เกตุทิพย์ (อยุธยา ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– ชนายุทธ เจจือ (อยุธยา ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– กานต์พิชชา ชะนะการี (สุโขทัย เอฟซี)
เข้า

– พิชา อุทรา (สมุทรปราการ ซิตี้)
– ภูมินทร์ แก้วตา (สมุทรปราการ ซิตี้)
– ฉัตรมงคล ทองคีรี (การท่าเรือ เอฟซี) *ยืมตัว
– วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ (นครราชสีมา เอฟซี) *กลับจากสัญญายืมตัว

ออก

– สารัช อยู่เย็น (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– อดิศร พรหมรักษ์ (การท่าเรือ เอฟซี)
– กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ระยอง เอฟซี)

สุโขทัย เอฟซี

เข้า

– โอลัคซอน เอ แทมบา ( รร.สวนกุหลาบวิทาลัย )
– เดชา สอาดโฉม (ระยอง เอฟซี)
– ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง (หนองบัวพิชญ เอฟซี)
– มูฮัมหมัดนาเซ กอและ (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
– อนุศักดิ์ ใจเพชร (โปลิศ เทโร เอฟซี)
– ชินพงษ์ รักษี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
– อนุรักษ์ ชมภูพฤกษ์ (สมุทรปราการ ซิตี้)
– ประสิทธิชัย เพิ่ม (ชัยนาท ฮอร์นบิล) *กลับจากสัญญายืมตัว
– ดิสดรณ์ พันธุ์จันทร์ (กรุงเทพคริสเตียน)
– กานต์พิชชา ชะนะการี (การท่าเรือ เอฟซี)

ออก

– สุทธินันท์ พุกหอม (ตราด เอฟซี)
– จอ โคโค (เชียงใหม่ ยูไนเต็ด)
– ชมพู แสงโพธิ์ (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– กิตติไกร จันทะรักษา (หนองบัว พิชญ เอฟซี) *ยืมตัว
– ศิวรุต ผลหิรัญ (หนองบัว พิชญ เอฟซี) *ยืมตัว
– ทัตพิชา อักษรศรี (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– มงคล ทศไกร (ตราด เอฟซี)
– โอลัคซอน เอ แทมบา (ลำปาง เอฟซี) *ยืมตัว

ชลบุรี เอฟซี

เข้า

– ทรงชัย ทองฉ่ำ *อะคาเดมี่
– ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว *อะคาเดมี่
– พงศกร ตรีสาตร์ *อะคาเดมี่
– ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ *อะคาเดมี่
– ชาคร พิลาคลัง (บ้านบึง เอฟซี)

ออก

– ณัฐวุฒิ ชูติวัตร (เอสทีเค เมืองนนท์ เอฟซี) *ยืมตัว
– นรุตม์ชัย นิ่มบุญ (ตราด เอฟซี)
– เอกชัย ฤทธิ์พันธ์ (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– เสฏฐวุฒิ วงค์สาย (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– ฤทธิ์เดช เพ็ญสวัสดิ์ (อยุธยา ยูไนเต็ด)
– กรวิทย์ นามวิเศษ (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด)
– สิทธิโชค ภาโส (ตราด เอฟซี) *ยืมตัว
– อดุล หละโสะ (ลำพูน วอริเออร์)
– มงคล นามนวด (โปลิศ เทโร เอฟซี)

สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

เข้า

– ทักษ์ดนัย ใจหาญ (ฟ็อก ฮั้นท์ )
– โคเอลโญ ชาชา (ซองนัม เอฟซี)

ออก

– มาอิลซอน ฟรานซิสโก เด ฟาเรียส
– วราวุฒิ โมทิม (เกษตรศาสตร์ เอฟซี) *ยืมตัว

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

เข้า

– เรนาโต เคลิช (ซิบาเลีย)
– มาร์โค เชโปวิช ( เคย์เคอร์ ริเซสปอร์
– จิดี คานยุค ( ฮาโปเอลไฮฟา )
– อัคบาร์ อิสมาตุลลาเยฟ ( เมตาลุค เบคาเบด )

ออก

– จอง แจ ยอง (ซูวอน เอฟซี)
– อันเดรส ตูเญซ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– ริคาร์โด บูเอโน ( กลับบราซิลบ้านเกิด )
– เบร์นาร์โด กูเอสตา (ปูเอบลา)
– แม็กซ์ ปีเตอร์ คีร์เวย์ (อ่างทอง เอฟซี)
– พศวีร์ เหมือนมาตย์ (อ่างทอง เอฟซี)
– พงษ์ชนะ กองกิริต (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– กฤษณะ ดาวกระจาย (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– ศราวุธ มั่นจิตร (อ่างทอง เอฟซี) *ยืมตัว
– ชินวัฒน์ วงศ์ไชย (ระยอง เอฟซี) *ยืมตัว
– อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
– กฤตภาส วิชัยดิษฐ (ศุลกากร ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
 
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

เข้า

– โรมรัน รอดวินิจ *อะคาเดมี่
– พีระเมธ จันทร์หก *อะคาเดมี่
– ธนภัทร นิรันดร *อะคาเดมี่
– พัชรพงษ์ ประทุมมา *อะคาเดมี่
– นนท์นวัฒน์ สาลาด *อะคาเดมี่

ออก

– วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) *หมดสัญญายืมตัว

พีที ประจวบ เอฟซี

เข้า

– พีรพัฒน์ ขมิ้นทอง (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
– อิสรุฟัน ดอรอแม (ปัตตานี เอฟซี)
– วิลเลน โมต้า (ศรีษะเกษ เอฟซี)
– กาฟาร์ ดูโรซิมี (ตราด เอฟซี)
– อาทิตย์ ดาวสว่าง (ตราด เอฟซี)
– ชุติพนธ์ ทองแท้ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

ออก

– ไบฮัคกี ไคซาน (แทมปิเนส โรเวอร์ส)
– บรูโน เมนเซกา (เฟอร์โรเวียเรีย)
– สุพจน์ จดจำ (หนองบัว พิชญ เอฟซี)

สมุทรปราการ ซิตี้

เข้า

– จักรกฤษณ์ ลาภตระกูล (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– จตุรพัช สัทธรรม (การท่าเรือ เอฟซี) *ยืมตัว
– บาร์รอส ทาร์เดลี (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
– อิซวาน มาห์บุด (ตราด เอฟซี)
– อภิชัย หมั่นอุตส่าห์ (แกรนด์อันดามัน ระยอง ยูไนเต็ด)
– ศักดิ์สิทธิ์ จิตวิจารณ์ (จามจุรี ยูไนเต็ด)

ออก

– เปโดร จูเนียร์ (ซีเอสเอ)
– พิชา อุทรา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– ภูมินทร์ แก้วตา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– อนุรักษ์ ชมภูพฤกษ์ (สุโขทัย เอฟซี)
– สราวุธ กัลยาณบัณฑิต (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)
– วีรศักดิ์ กายสิทธิ์ (สมุทรสาคร เอฟซี)
– กฤษณ์พรหม บุญสาร (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– เมธี สาระคำ (ระยอง เอฟซี) *ยืมตัว
– อรรถพล กันหนู (เกษมบัณฑิต เอฟซี)

ระยอง เอฟซี

เข้า

– กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
– จิรายุทธ หลึ่งเทพ (พัฒนา เอฟซี)
– นัฐวุฒิ แสงศรี (ชลบุรี เอฟซี)*ยืมตัว
– ธรรมวัฒน์ ไตรล้ำ (พัฒนา เอฟซี)
– วิทวัตร โสมณะวัตร
– เมธี สาระคำ (สมุทรปราการ ซิตี้) *ยืมตัว
– เจตน์จิณณ์ ศรีปราชญ์ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– ศักดิ์ดา ฝ่ายอินทร์ (เกษตรศาสตร์ เอฟซี)
– ชัชชน ใจรังสี (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
– ชินวัฒน์ วงศ์ไชย (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) *ยืมตัว
– ดานิโล โลเปส ( ยูเวนตุส ดา โมก้า )
– อดาลกิซิโอ พิตบูล ( ยูอาร์ที )
– อนุศิษฏ์ เติมมี (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
– ฮาน ชาง วู (ชอนวู เอฟซี)
– ภาณุวิชญ์ จิตเสนาะ (สมุทรปราการซิตี้)
– สุพัฒน์ชัย เหล่าทอง (อคาเดมี)

ออก

– ศุภเสกข์ ไก่แก้ว (ราชประชา เอฟซี)
– ติอาโก ชูลาปา (หนองบัว พิชญ เอฟซี)
– ติอาโก หลุยส์ ( ยกเลิกสัญญา )
– เดชา สอาดโฉม (สุโขทัย เอฟซี)
– เลอันโดร เรซิดา *ยกเลิกสัญญา
– บิรัม ดิยุฟ (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด)

“ชาช่า” เตรียมเปิดตัวกับสิงห์ เชียงราย

แฟนเพจสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด Chiang Rai United FC ได้มีการเผยแพร่ภาพสดที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อเตรียมรับนักเตะต่างชาติและทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชที่ออกจาก สเตท ควอรันธีน ที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 27 ส.ค.63 โดยการเดินทางมาที่สโมสรในครั้งนี้มี บิล โรซิม่าร์ ศูนย์หน้าคนสำคัญของทีม รวมถึงนักเตะรายใหม่อย่าง "ชาช่า"แจ็คสัน โคเอลโญ่ ที่เตรียมมาเปิดตัวกับทีมในเย็นวันนี้ด้วย


สำหรับ "ชาช่า" แจ็คสัน โคเอลโญ่ ศูนย์หน้าวัย 34 ปี ผ่านการค้าแข้งกับ 2 ทีมดังในศึกไทยลีกกับทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปี 2017 และ เอสซีจี เมืองทอง ปี 2018 ก่อนจะบินไปค้าแข้งกับ ซองนัม เอฟซี ที่เกาหลีใต้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว กระทั่งเตรียมกลับมาไทยลีกอีกครั้งกับทีม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่ง "ชาช่า" จะมาแทนโควต้าของ มาอิลซอน ที่โดนยกเลิกสัญญาไปแล้วก่อนหน้านี้

เจ๋งไหม..แข้งนอกใหม่แกะกล่องเขย่าไทยลีก

ศึกฟุตบอลไทยลีก1 ฤดูกาล 2020-2021 จะกลับมารีสตาร์ทกันอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้ฟาดแข้งกันไปแล้ว 4 เกม แต่เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ลีกต้องถูกระงับการแข่งขันชั่วคราวแบบยาวๆ 5 เดือน นวัตกรรมตะบันแข้งที่ฝ่ายจัดการแข่งขันพยายามค้นคิดหากรรมวิธีมากมายเพื่อให้ฟุตบอลออกมาในสิ่งที่ฝ่ายจัดต้องการให้เป็นจึงเกิดขึ้นโดยเรื่องสำคัญที่น่าสนใจคือเรื่องของตลาดซื้อ-ขาย รอบพิเศษ ที่เปิดให้โอนย้ายกันระหว่างวันที่ 25 ส.ค.-7 ก.ย.63 ตลาดรอบนี้ทุกทีมมีสิทธิ์ที่จะเทผู้เล่นออกแบบยกกระบิดึงผู้เล่นเข้าแบบไม่อั้นขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเงินของแต่ละทีม

การย้ายเข้าออกของผู้เล่นส่วนใหญ่รอบนี้จะเป็นการย้ายผู้เล่นในลีก มากกว่าที่จะอิมพอร์ตเข้ามา ซึ่งมาถึงวันนี้มีผู้เล่นที่มาจากลีกนอกประเทศเพียง 7 ราย ประกอบไปด้วย บุรีรัมย์ 4 ราย ,บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1 ราย ,ราชบุรี เอฟซี 1 ราย และ เชียงราย ยูไนเต็ด 1 ราย  ผู้เล่น 6 ใน 7 ราย เป็นสิ่งที่แฟนบอล,สโมสรผู้ว่าจ้างคาดหวังอยากเห็นความแปลกใหม่สร้างความสำเร็จเพราะตลาดรอบนี้เหมือนเป็นตลาดที่เปิดมาช่วยเยียวยาหลายๆด้านทั้งเรื่องของสภาวะทางการเงินทีมกลางๆไปจนถึงเล็กๆ  รวมไปถึงทีมใหญ่ๆที่ผลงานยังไม่เข้าเป้า ตลาดรอบพิเศษที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นเส้นบางๆแห่งความหวัง

หากไม่นับรายของ “จาจ้า”แจ็คสัน โคเอญโญ่ ที่เชียงรายคว้าตัวมาร่วมทีม เพราะเคยโลดแล่นลีกไทยมาแล้ว ทั้งการเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด,เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด  ไทยลีก ซีซั่นนี้จะมีแข้งนอกหน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมถึง 6 คน นี่คือการแกะกล่องความสามารถบนลีกไทยของแข้งหน้าใหม่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นหรือไม่เรื่องราวในสนามแข่งขันในวันที่ 12 ก.ย.63 เป็นต้นไปจะเป็นตัวชี้วัด แต่ก่อนจะแกะกล่องแฟนบอลไทยไปทำความรู้จักกับบรรดาแข้งหน้าใหม่ของ 3 สโมสรกันว่ามีอะไรโดดเด่นถึงกล้าทุ่มมาในช่วงของวิกฤตเศรษฐกิจโลกและวิกฤตโรค พอหอมปากหอมคอ

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เลือกเปลี่ยนถ่ายตัวผู้เล่นต่างชาติแบบยกล็อต  ในช่วงตลาดพิเศษรอบนี้ พร้อมกับนำเข้ามาใหม่ 4 รายรวด ในทุกตำแหน่ง  เรนาโต เคลิช แข้งวัย 29 ปี จากโครเอเชีย จะก้าวมายืนปักหลักเกมรับแทน อันเดรส ตูเนซ ที่ย้ายไปอยู่บีจี ปทุม ยูไนเต็ด  ประสบการณ์ถือว่าน่าสนใจผ่านการติดทีมระดับเยาวชนของโครเอเชียมาหลายรุ่น 18,19,20,21 ปี  ย้ายมาจากสโมสร  ซิบาเรีย ในโครเอเชีย ประสบการณ์ฟุตบอลอาชีพ 299 เกม ยิงไป 9 ประตู  นอกจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊คที่ถนัดแล้วยังสามารถยืดไปเล่นแบ๊คขวาเคยค้าแข้งกับสโมสรดังสโลวาน  ไลบิเลซ

ส่วนอีก 3 ราย  ประกอบไปด้วย จิดี คานยุค  แข้งอิสราเอล วัย  27 ปี  ที่จะมาบัญชาการในตำแหน่งกลางตัวรุก  อีกทั้งยังมีชื่อของ อัคบาร์  อิสมาตุลราเยฟ  ดาวเตะวัย  29 ปี ทีมชาติอุซเบกิสถาน ที่จะมาซัพพอร์ตแดนกลางแต่จะเป็นตัวปัดกวาดเกมรุกคู่แข่งพร้อมกับตำแหน่งโควตาเอเชีย  และรายสุดท้ายที่น่าสนใจคือ  มาร์โก เซโปวิซ  กองหน้า วัย 29 ปี ชาวเซอร์เบีย  ตำแหน่งที่สโมสรตามหาตั้งขาดหาย ดิโอโก  หลุยส์ ซานโต ไป จะทดแทนได้หรือไม่นับว่าน่าติดตาม แต่ดูจากชื่อชั้นที่ก้าวไปถึงทีมชุดใหญ่ เซอร์เบีย ช่วงปี 2012 รวมไปถึงผ่านการเล่นให้ทีมใหญ่ๆทั้ง เบลเกรด ,โอลิมเปียกอส,มาร์ยอกา ก็น่าจะมีดีพอตัว ประสบการณ์ฟุตบอลอาชีพตลอดชีวิต 279 เกม 102 ประตู ก็จัดว่าคมเอาเรื่องแต่ทุกอย่างหลังจากนี้คือเรื่องของการปรับตัวทั้งเรื่องเคมีกับเพื่อนร่วมทีมรวมไปถึงสภาพแวดล้อมกล่อง 4  ใบนี้ของ บุรีรัมย์ คือความหวังสูงสุดในการเป็นองค์ประกอบใหญ่ไล่ล่าแชมป์

น่านฟ้าเปิดแล้วเจอกันนั่นคือคำมั่นสัญญาของ ประธานสโมสรบีจี ปทุมยูไนเต็ด อย่าง ปวิณ   ภิรมย์ภักดี  เป็นการเอ่ยถึงขุนศึกซามูไรหน้าใหม่ที่จะสอดแทรกเข้ามาสู่ทีมในช่วงของตลาดซื้อขายพิเศษเกิดขึ้น  เพื่อเป็นการเติมเต็มขีดความสามารถของทีมในการสร้างโอกาสลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2020-2021  ชื่อของ มิตซุรุ มารุโอกะ ก้องอยู่ในหูแฟนบอลชาวไทยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา  แน่นอนว่าโปไฟล์แบบไหน?ที่ทีมใหญ่อย่างบีจีต้องการสอยเข้ามาสู่ทีม มารุโอกะ มีชื่อจากการไปร่วมทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุน  แม้ว่าจะเป็นทีมสำรองและมีโอกาสในชุดใหญ่น้อยแต่ตัวเลขอายุ 24 ปี นี่คือความท้าทายใหม่ๆของแข้งดังจากญี่ปุ่น  ประสบการณ์ในเส้นทางฟุตบอลอาชีพทั้ง เซนเรโซ โอซากา,ดอร์ทมุน,วีวาเรน นากาซากิ,ยามากูชิ น่าจะพอช่วยให้ความมั่นใจเกิดขึ้นบ้างในกลุ่มแฟนบอล กล่องใหม่ใบนี้ของบีจีรอการเปิดให้วงการฟุตบอลได้ยลซึ่งเมื่อลีกเปิดทุกอย่างคือคำตอบ

กลายเป็นทีมที่มีกลุ่มผู้เล่นอายุน้อยอยู่ในทีมค่อนข้างเยอะสำหรับ ราชบุรี เอฟซี  แม้กระทั่งดีลผู้เล่นต่างชาติโควตาอาเซียนล่าสุดในช่วงตลาดพิเศษยังเลือกแข้งวัย 20 ปี อย่าง จัสติน บาส  ดาวเตะกองหลังตัวกลาง ลูกครึ่งดัตซ์-ฟิลิปปินส์  มีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ฟิลิปปินส์ และก่อนหน้านี้เคยรับใช้ทีมชาติชุด 15 ปี ของฮอลแลนด์  ซึ่งแข้งรายนี้เกิดที่คูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ไปเติบโตในฮอลแลนด์ เริ่มต้นกับการเป็นเด็กฝึกหัดของ อัคมาร์ ก่อนที่จะขยับตัวเองสู่ทีมสำรอง สำหรับในทีมชาติฟิลิปปินส์  บาส มีชื่อลงเล่นให้กับทีมชาติในรายการฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชียในเกมที่พบกับ ซีเรีย และ กวม นี่คืออีกหนึ่งกล่องสุ่มที่กำลังจะเปิดในวงการฟุตบอลไทย