คล็อปป์เหน็บคาร์ร่าคิดแบบนี้ถึงไม่มีโอกาสทำงานคุมทีม

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล เหน็บแนม เจมี่ คาร์ราเกอร์ ว่าแสดงความเห็นที่ผิดๆ จนทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้ คาร์ราเกอร์ ไม่มีโอกาสมาทำงานคุมทีม หลังจากที่ คาร์ราเกอร์ เหมือนกับจะเคยบอกว่า "หงส์แดง" ทำพลาดที่ไม่เสริมทัพในตำแหน่งกองหลังในตลาดรอบล่าสุด
    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหน็บ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตยอดกองหลังของทีมที่เหมือนกับจะเคยตำหนิตนว่าทำพลาดที่ไม่ยอมซื้อเซนเตอร์แบ็กอาชีพในตลาดการเสริมทัพรอบล่าสุด

    ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มขึ้นนั้น ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย เดยัน ลอฟเรน ให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แต่ก็ไม่ได้ซื้อใครมาแทนเลยจนทำให้เซนเตอร์แบ็กอาชีพที่มีประสบการณ์ระดับการเล่นให้ทีมชุดใหญ่แบบต่อเนื่องของพวกเขาเหลือเพียง 3 คน ได้แก่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ "หงส์แดง" ก็ได้รับข่าวร้ายเมื่อ ฟาน ไดค์ มีอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกจนต้องหมดสิทธิ์ลงเล่นเป็นเวลานาน แถมถ้าเลวร้ายที่สุดยังอาจจะถึงขั้นต้องพักทั้งฤดูกาลเลย

    เรื่องดังกล่าวทำให้ไม่นานมานี้ คาร์ราเกอร์ กล่าวระหว่างการทำหน้าที่กูรูของ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดีว่าที่จริงแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ก็เต็มไปด้วยความน่ากังขามาตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่นนี้แล้ว เพราะแม้ว่า ฟาน ไดค์ จะเป็นยอดกองหลัง แต่รายของ มาติป มักจะได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ส่วน โกเมซ ก็ยังดูฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร พร้อมกระตุ้นให้อดีตทีมของตนต้องเลื่อนมาปิดดีลกับกองหลังที่เป็นแข้งเป้าหมายของทีมตั้งแต่วันแรกของตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ช่วงเดือนมกราคมนี้ให้ได้ ไม่ใช่รอไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า

    คล็อปป์ เผยว่า "ตอนแรกเราลงเล่นฤดูกาลนี้โดยที่มีเซนเตอร์แบ็กให้ใช้งานตั้ง 3 คน แถมยังมี ฟาบินโญ่ เป็นอะไหล่ในตำแหน่งนี้ รวมถึงมีดาวรุ่งบางคนที่สามารถลงเล่นให้ทีมได้ด้วย มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ทีมของคุณจะมีเซนเตอร์แบ็กระดับโลกอยู่ในทีมถึง 4 คน ถ้าเกิดมีใครอยากบอกว่าเราทำพลาด (ในการไม่ซื้อเซนเตอร์แบ็ก) อย่างเช่น เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่พูดไปก่อนหน้านี้แล้วล่ะก็ ผมก็คิดว่านั่นคงเป็นหนึ่งในไม่กี่เหตุผลที่ทำให้คนแบบนั้นไม่ได้ทำงานนี้ (การคุมทีม)"

    หลังจาก คล็อปป์ พูดแบบนั้น คาร์ราเกอร์ ก็ชี้แจงทาง ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ยอดฮิตว่าตนไม่เคยตำหนิ คล็อปป์ เลยว่าทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อกองหลังในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา "ในฤดูกาลนี้ผมยังไม่เคยพูดแม้แต่ครั้งเดียวว่า คล็อปป์ ทำพลาดที่ไม่ได้ซื้อเซนเตอร์แบ็กด้วยเหตุผลบางอย่างตามที่เขากล่าวอ้าง"

 

ของปลอม! “คาร์ราเกอร์” เตือนหงส์อย่าพลาดซื้อ “2 สตาร์พรีเมียร์ลีก” เด็ดขาด

เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนานกองหลังของลิเวอร์พูล ส่งคำเตือนไปถึงทีมเก่าว่าอย่าคิดที่จะคว้า 2 แข้งอย่าง แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษของแอสตัน วิลล่า และ วิลฟรีด ซาฮา แนวรุกตัวจี๊ดจากคริสตัล พาเลซ มาเสริมทัพ เนื่องจากมองว่ายังไม่ดีพอที่จะเล่นให้หงส์แดง

"ผมคิดว่าชื่อชั้นของกรีลิชนั้นอยู่ในระดับเดียวกับซาฮา ที่คุณจะต้องทุ่มเงินในระดับ 60 หรือ 70 ล้านปอนด์ในการคว้าตัวพวกเขา"

"แน่นอน ผมไม่คิดว่าพวกเขาดีพอที่จะเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล หรือ แมนฯ ซิตี้ หรอกนะ และแม้กระทั่งทีมที่อยู่ต่ำกว่าท็อปโฟร์ ผมไม่เชื่อว่าทีมเหล่านี้จะยอมทุ่มเงินเพื่อให้ได้ตัวพวกเขามา" อดีตแข้งวัย 42 ปีกล่าว

คาร์ร่าชี้นักเตะที่จะเข้ามาช่วยแมนยูลุ้นแชมป์

แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด คิดอย่างไรบ้าง หลัง เจมี่ คาร์ราเกอร์ แนะให้ดึงนักเตะอีกรายมาเสริมทัพให้ได้ รับรองจะกลายเป็นทีมร่วมวงแย่งแชมป์ทันที

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลัง ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์เกมให้กับสถานีโทรทัศน์ สกาย สปอร์ตส์ เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก หากดึง เจดอน ซานโช่ ปีก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

ซานโช่ วัย 20 ปี ตกเป็นข่าวกับ "ปีศาจแดง" มานานแล้ว แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจาก ดอร์ทมุนด์ อยากได้เงินค่าตัวไม่ต่ำกว่า 108 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,320 ล้านบาท) แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่พร้อมจ่ายให้มากถึงขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม ทีมยังไม่หมดหวังจนกว่าจะปิดตลาดนักเตะวันที่ 5 ตุลาคมนี้

คาร์ราเกอร์ เขียนลงคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ ซันเดย์ ไทม์ส ว่า "ผมเคยคิดมาตลอดว่า นักเตะหนึ่งหรือสองคนสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้ สำหรับผมแล้วการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาคว้าตัว บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลง ยูไนเต็ด อย่างสิ้นเชิง"

"นั่นเป็นแค่การเซ็นสัญญารายเดียว บรูโน่ ทำให้ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่แตกต่างจากเดิมไปเลย และหากพวกเขาได้ เจดอน ซานโช่ มาอีกรายรับรองว่า ยูไนเต็ด จะกลายเป็นทีมลุ้นแย่งแชมป์ทันที พวกเขาไม่ได้อยู่ห่างไกลจากที่ผู้คนคิด หนึ่งหรือสองนักเตะใหม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้" อดีตกองหลัง "หงส์แดง" เผย

 นอกจากนั้น คาร์ราเกอร์ ยังมองว่า "ปีศาจแดง" ควรดึงกองหลังมาเสริมแนวรับอีกราย โดยให้เหตุผลว่า "ยูไนเต็ด ยังต้องการเซนเตอร์แบ็กคนใหม่ เพื่อที่จะทำให้พวกเขามีเกมรับที่แข็งแกร่งขึ้น อย่างไรก็ตามจากความจริงที่ว่า เชลซี เซ็นสัญญากับ ติอาโก้ ซิลวา ทำให้เวลานี้เหลือเซนเตอร์ชั้นยอดไม่มากแล้ว"

เจอร์ราร์ดนำอดีตแข้งฉลองลิเวอร์พูลได้ชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์

อดีตแข้งหลายรายของ ลิเวอร์พูล ฉลองกับการที่อดีตต้นสังกัดได้ชูถ้วยแชมป์อย่างเป็นทางการ อย่างเช่น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ออกมาพิมพ์แบบสั้นๆ ว่า "แชมเปี้ยน" เป็นต้น
    อดีตนักเตะหลายคนของ ลิเวอร์พูล ร่วมฉลองกับการที่ "หงส์แดง" ได้ชูถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 อย่างเป็นทางการ หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะ เชลซี 5-3 เมื่อวันพุธที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ การันตีแชมป์ลีกได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องรอจนถึงเกมลีกนัดรองสุดท้ายกว่าที่จะได้รับถ้วยแชมป์ ซึ่งบรรยากาศการฉลองภายในสนามก็เต็มไปด้วยความครึกครื้นสุดขีด

 


 

    สำหรับอดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล ที่ร่วมฉลองผ่านโลกออนไลน์มีอย่างเช่น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่พิมพ์ว่า "แชมเปี้ยน", ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่บอกว่า "คงไม่มีทางภูมิใจได้มากกว่านี้อีกแล้ว ขอบคุณนะ @LFC", เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่โพสต์ว่า "เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยบอกว่าเขาจะเปลี่ยนจากผู้กังขาให้เป็นผู้ที่มีความเชื่อ @LFC #premierleaguechampions", จอห์น อัลดริดจ์ ที่พิมพ์ว่า "ชอบการฉลองมากๆ มันเหมาะสมแล้วที่คืนนี้เราเก็บได้ 96 คะแนนพร้อมกับได้ชูถ้วยแชมป์ไปด้วย! เราจะไม่มีวันลืมพวกเขา เหล่า 96 ชีวิตที่ต้องจากไปจากโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ และจะไม่มีวันลืมทีมชุดนี้ที่ทำให้เรากลับมาเป็นแชมป์ลีกได้หลังจากห่างหายไปนานด้วย YNWA" และ เอียน รัช ที่พิมพ์ว่า "30 ปี! ขอแสดงความยินดีกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก ด้วย @LFC #YNWA" เป็นต้น

 

ไม่เสริมเจอปัญหาแน่!คาร์ร่าชี้ตำแหน่งที่ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องช็อป

หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เจ๊ากับ เอฟเวอร์ตัน แบบไร้สกอร์ เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังคนดังของ "หงส์แดง" ก็บอกทันทีว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องเสริมทัพในแดนหน้า เพราะพอคนใดคนหนึ่งหายไปแล้วเกมรุกของทีมก็ดร็อปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ได้ลงเล่นเพราะมีปัญหาด้านความฟิต ชี้ ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล ไม่เสริมทัพในแดนหน้าแล้วล่ะก็ พวกเขาก็อาจจะเจอปัญหาในซีซั่นต่อไปได้เลย
    เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตยอดกองหลังของ ลิเวอร์พูล แสดงความเชื่อว่า "หงส์แดง" จำเป็นต้องเสริมทัพในตำแหน่งแนวรุกให้ได้ หลังจากที่ล่าสุดเกมรุกของพวกเขาทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรจากการที่ขาด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จนส่งผลให้ทำได้เพียงออกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 0-0 ที่สนาม กูดิสัน พาร์ค ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา

    ปัจจุบัน 3 แนวรุกตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ได้แก่ ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซึ่งทั้งหมดก็ประสานงานกันได้อย่างลงตัวจนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ดีที่สุดของทวีปยุโรปในตอนนี้ อย่างไรก็ตาม มันก็มีการมองกันว่าตัวเลือกสำรองในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ยังไม่ดีเท่าไหร่ อย่างเช่น ทาคูมิ มินามิโนะ, ดิว็อค โอริกี้ และ เคอร์ติส โจนส์ เป็นต้น

    ทั้งนี้ ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซาลาห์ มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น หลังจากที่มีปัญหาด้านสภาพความฟิตนิดหน่อย โดยที่ มินามิโนะ ได้เป็นตัวจริงแทนเขา และสุดท้ายดาวเตะชาวอียิปต์ก็ไม่โดนเปลี่ยนลงไปเล่นในสนามเลยด้วย ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะได้เพียง 1 คะแนนกลับบ้าน

    คาร์ราเกอร์ ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นกูรูให้ สกายสปอร์ตส์ สื่อกีฬาชั้นนำของเมืองผู้ดี เผยว่า "ฟังนะ แนวรุกตัวจริง 3 คนที่เรารู้จักในตอนนี้น่ะเป็นแนวรุกที่เก่งพอๆ กับพวกยอดแนวรุกในทีมระดับทวีปยุโรป แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนใดคนหนึ่งหายไปน่ะ ผลงานโดยรวม (ของอีก 2 คน) ก็จะดร็อปลงเยอะมาก จริงอยู่ว่า 3 คนนี้แทบจะลงเล่นด้วยกันเกือบทุกนัด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนใพดคนหนึ่งหายไปผลงานของพวกเขาก็จะดร็อปลงอย่างชัดเจน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมคิดว่าพวกเขายังจำเป็นต้องเสริมทัพเพื่อทำให้แผนแนวรุก 3 คนมันแข็งแกร่งขึ้น"

    "ผมไม่บอกหรอกว่า ลิเวอร์พูล โชคดี (ที่ 3 แนวรุกแทบจะได้ลงเล่นร่วมกันอยู่ตลอด) พวกเขาแข็งแกร่งกันมากๆ จนทำให้ไม่ได้อดลงเล่นร่วมกันมากเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล เสียใครคนใดคนหนึ่งไปเป็นเวลานานแล้วน่ะ ฤดูกาลหน้าพวกเขาก็อาจจะเจอปัญหานิดหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงตำแหน่งปีก"

โอเว่นเปิดชื่อนักเตะลิเวอร์พูลที่ทำให้ย้ายซบมาดริด

แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องไปฟัง ไมเคิ่ล โอเว่น เผยตัดสินใจลาถิ่น แอนฟิลด์ ไปซบ เรอัล มาดริด เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เพราะนักเตะเพื่อนร่วมทีมคนไหน
    ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล เปิดเผยว่า คำพูดของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ช่วยกระตุ้นให้ตัวเองตัดสินใจอำลา "หงส์แดง" ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2004 เนื่องจากต้องการพิสูจน์ฝีเท้าให้เห็นว่าเพื่อนมองตัวเองผิดไป หลังบอกว่า ไม่สามารถไปเล่นให้ "ราชันชุดขาว" ได้แน่

    โอเว่น เผยผ่าน ทอล์คสปอร์ต สื่อเมืองผู้ดีว่า "ตอนนั้นผมอยู่ที่อเมริกา ผมและ เจมี่ คาร์ราเกอร์ เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน พวกเราอยู่ในช่วงทัวร์ปรีซีซั่น และ ราฟา เบนิเตซ เพิ่งรับงานเข้ามาคุม ลิเวอร์พูล"

    "เอเยนต์ของผมโทรศัพท์เข้ามาและบอกว่า "มาดริด ต้องการซื้อนาย" ผมยังจำได้ตอนวางสายไปราว 2 นาที คาร์ราเกอร์ ก็มองผม และพูดว่า "อย่าทำแบบนั้น" ผมก็ถามกลับว่า "ทำไมล่ะ" ก่อนที่เขาจะตอบว่า ผมไปเล่นที่นั่นไม่ได้หรอก"

    "มันทำให้ผมตัดสินใจเซ็นสัญญากับพวกเขาทันที ผมคิดว่า ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า คาร์ร่า คิดผิด ผมพูดกับตัวเองเสมอว่า มันเป็นปัญหาที่ดี คุณจะบ่นได้อย่างไรถ้า เรอัล มาดริด สนใจในตัวคุณ?"

    "มีวันหนึ่งผมคิดว่า ตัวเองไม่สามารถลาครอบครัวของผม และเพื่อนๆ ที่ ลิเวอร์พูล ผมเกิดมาเพื่อสโมสรแห่งนี้ และก้าวขึ้นมาอย่างถูกต้อง แต่ถ้าคุณไม่ไป คุณอาจจะต้องใช้เวลา 60 ปีมาคิดถึงมัน มันเป็นปัญหาที่แย่สุดในโลก แต่ก็เป็นปัญหาที่สวยงามในเวลาเดียวกัน" โอเว่น ทิ้งท้าย

เจมี่ คาราเกอร์ สุดทึ่ง ลิเวอร์พูล ย้อมแมวขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ได้ 50 ล้านปอนด์



เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังลิเวอร์พูล ออกมาเผยว่า เมื่อตอนที่ ลิเวอร์พูล ปล่อยตัว เฟร์นานโด ตอร์เรส ออกจากทีมไปให้ เชลซี ด้วยเงินจำนวนมหาศาล 50 ล้านปอนด์ มันทำให้เขางงมาก ๆ เพราะว่าตอนนั้นดาวยิงแก้มแดงฟอร์์มฝืดสุด ๆ จากรายงานของ mirror.co.uk เมื่อ 24 เมษายน 2563

        ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ลิเวอร์พูล ตัดใจขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ไปให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติสโมสรที่ 50 ล้านปอนด์ ซึ่งกว่าเรื่องจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปวันสุดท้ายของตลาดพอดี ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนั้น คาร์ร่า เผยว่าเป็นตัวเลขที่แข้งหงส์แดงงุนงงกันไปหมด

        เจมี่ คาร์ราเกอร์ เผยว่า "ผมพูดตรง ๆ เลยในตอนที่รู้ว่า ลิเวอร์พูล ขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ออกไปได้ 50 ล้านปอนด์ ผมแทบไม่อยากเชื่อ แต่ก็คิดว่าเราได้ลวงเชลซีไปเต็ม ๆ"

        "เพราะอะไรนะเหรอ มันเป็นเพราะว่าในช่วง 18 เดือนแรกของเขากับ ลิเวอร์พูล คือฟอร์มดีจริง ๆ แต่ในช่วงปีสุดท้ายผมคิดว่าเขาดรอปลงไปเยอะนะ อาจจะเป็นเพราะว่าเขามัวแต่คิดเรื่องของตัวเองมากไป"

        "โอเค ผมเข้าใจได้ว่าเจ้าของเชลซี เขาชอบซื้อนักเตะที่ตัวเขาชื่นชอบก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งเราก็ได้เห็นจากเคส เชฟเชนโก้ ส่วน ตอร์เรส มันเป็นช่วงที่เขายิงประตูไม่ค่อยได้เลยด้วยซ้ำ แถม ลิเวอร์พูล เองก้ฟอร์มตกมาก ๆ แต่ในเกมที่เจอกับเชลซีเราดันเล่นได้ดี และตอร์เรสก็ยิงได้อีก 2 ลูก ผมคิดว่าเราถูกโฉลกกับการทำประตูเชลซีจริง ๆ"

        "แน่นอนว่า 50 ล้านปอนด์ มันเป็นจำนวนเงินที่เยอะมาก ๆ ผม และนักเตะทุกคนในทีมอึ้งกันไปหมดว่าเราขายเขาไปได้ราคานี้เลยเหรอ แต่ก็นั่นแหละสุดท้ายเราก็เอาเงินไปให้นิวคาสเซิลต่อจากดีล แอนดี้ แคร์โรล แต่ยังโชคดีที่เราได้ หลุยส์ ซัวเรซ เข้ามา"

        ทั้งนี้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ถือว่าล้มเหลวกับ เชลซี อย่างสิ้นชิง โดยลงสนามทั้งหมด 172 นัด ยิงได้ 45 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยยืมต่อไป เอซี มิลาน และแอต.มาดริด จนหมดสัญญา

ทนแรงด่าไม่ไหว!ลิเวอร์พูลกลับลำแล้วเรื่องพักงานลูกจ้าง

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กลับลำเรียบร้อย สำหรับเรื่องพักงานลูกจ้างในสโมสร หลังจากที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงถึงความไม่เหมาะสม
      ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้กลับคำตัดสินใจเรียบร้อย สำหรับการที่จะใช้มาตรการเร่งด่วนของรัฐบาล เกี่ยวกับเรื่องจ่ายค่าเหนื่อยของพนักงานภายในสโมสรร่วม 200 คน ที่ถูกพักงาน

      ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล ได้ประกาศพักงานลูกจ้างที่ไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล ในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส "โควิด-19" ที่ส่งผลทำให้เกมการแข่งขันต้องถูกระงับแบบไม่มีกำหนด โดยลูกจ้างที่ถูกพักงานจะยังได้เงินเต็มจำนวน แต่สโมสรจะจ่ายให้แค่ 20% ส่วนอีก 80% จะได้รับการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล (แต่ไม่เกิน 2,500 ปอนด์ หรือ 100,000 บาท)

      การตัดสินใจดังกล่าวของ ลิเวอร์พูล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ซึ่งก็รวมถึงอดีตสองนักเตะชื่อดังของสโมสรอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ กับ ดีทมาร์ ฮามันน์ และล่าสุด "หงส์แดง" ได้กลับลำเรียบร้อย

      "เราเชื่อว่าเราได้ข้อสรุปที่ผิดพลาดในสัปดาห์ที่แล้ว ที่เราจะประกาศว่า เรามีความตั้งใจที่จะใช้มาตรการรักษางานในช่วงวิกฤตโคโรน่าไวรัส รวมถึงการพักงานลูกจ้าง เนื่องจากการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ถูกสั่งระงับชั่วคราว ซึ่งสำหรับกรณีนี้ เรารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง"

      "ความตั้งใจของเรายังคงเป็นการทำให้แน่ใจว่า พนักงานทั้งหมดของเรา จะได้รับการปกป้องมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากการสูญเสียรายได้ในช่วงเวลาที่คาดไม่ถึงแบบนี้ เราให้คำมั่นสัญญาว่า เราจะหาทางแก้ไขอื่นในช่วงที่ไม่มีเกมแข่งขันฟุตบอล เพื่อทำให้แน่ใจว่า เราจะไม่นำโครงการบรรเทาทุกข์ของทางรัฐบาลมาใช้" ข้อความในจดหมายที่ ปีเตอร์ มัวร์ ประธานบริหาร ลิเวอร์พูล ส่งถึงแฟนๆ