ลอว์เรนสันเชียร์ลิเวอร์พูลดึงเด็กเก่าทดแทนฟานไดค์

มาร์ค ลอว์เรนสัน ชี้แนะว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ควรที่จะดึงอดีตลูกหม้อของทีมอย่าง คอเนอร์ เคาดี้ เข้ามาร่วมทีม เพื่อทดแทนการขาดหายไปของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์
   
มาร์ค ลอว์เรนสัน อดีตตำนานของ ลิเวอร์พูล เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ‘หงส์แดง’ ควรที่จะดึง คอเนอร์ เคาดี้ ปราการหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส เข้ามาร่วมทีม เพื่อทดแทน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาว

ฟาน ไดค์ ได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณเส้นเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หรือ ACL ในเกมที่บุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2 เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งอาการบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้เจ้าตัวต้องพักรักษาตัวนานอย่างน้อย 6 เดือน และเป็นผลให้ฤดูกาลนี้ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย

โดยทาง ลอว์เรนสัน สนับสนุนให้ คล็อปป์ ดึงตัว คอเนอร์ เคาดี้ กัปตันทีมวูล์ฟส์ ซึ่งเคยเป็นเด็กปั้นของทีมเข้ามา "ผมคิดว่า เฟอร์กิล จะต้องพักไปทั้งฤดูกาล"

"ผมคิดว่าต้องกาชื่อออกไปได้เลยเพราะคุณต้องมีแมตช์ฟิตเนส และเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยในตอนนี้ เพราะพวกเขาเล่นให้ทีมสำรองไม่ได้" ลอว์โร่ เผยกับ Argus

"หาก ลิเวอร์พูล จะจ่ายเงินก้อนโตเพื่อใครสักคนตอนเดือนมกราคม พวกเขาก็ต้องการคนที่พร้อมใช้งานได้เลย คอเนอร์ เคาดี้ ถูกพูดถึงมาก และเขาก็เป็นผู้เล่นที่จัดการได้ดี และเป็นคนที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก มาแล้วหลายเกม"

สำหรับ เคาดี้ เติบโตมากับ อคาเดมี่ ของ ลิเวอร์พูล โดยลงสนามในนามทีมชุดใหญ่ของ "หงส์แดง" แค่ 2 เกม ก่อนจะอำลาทีมไปอยู่กับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ตอนปี 2014 จากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับ วูล์ฟส์ และพัฒนาตัวเองจนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ใครดี? 4แข้งเหมาะย้ายมาเป็นตัวแทนฟานไดค์ตลาดหน้าหนาว

สืบเนื่องจากการที่ ลิเวอร์พูล กำลงประสบปัญหาในแนวรับ หลังจากต้องเสีย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บหนักจากเกม เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์ กับ เอฟเวอร์ตัน
    ฟาน ไดค์ วัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวจากชอตที่โดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตู เอฟเวอร์ตัน พุ่งเข้าชนในนัดล่าสุดที่ "หงส์แดง" ออกไปเสมอกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" 2-2 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเขาจำเป็นต้องรับการผ่าตัด และเชื่อกันว่าในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดนั้นแข้งวัย 29 ปีก็อาจจะต้องพักทั้งฤดูกาลนี้เลย

    ส่งผลให้เวลานี้ ลิเวอร์พูล จะเหลือเพียง โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ที่เชื่อใจได้เท่านั้น แต่ก็สามารถจับ ฟาบินโญ่ ถอยไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์จำเป็น ซึ่งเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำผลงานได้ดี

    อย่างไรก็ตามช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมนี้ก็เป็นโอกาสที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้เสริมผู้เล่นเข้ามาใหม่ นี่คือ 4 นักเตะที่เหมาะย้ายมาเป็นตัวแทน ฟาน ไดค์

ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ – ไลป์ซิก

    ปรากาหลังทีมชาติฝรั่งเศกลายเป็นหนึ่งในแนวรับที่เนื้อหอมมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรปในช่วงตลาดนักเตะเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากโชว์ผลงานสุดแจ่มให้ ไลป์ซิก ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็เคยมีข่าวให้ความสนใจมาแล้วด้วย

    อูปาเมกาโน่ เป็นกองหลังที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทำให้เขามีสไตล์การเล่นที่แข็งแกร่งดุดัน และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี โดยดาวเตะวัย 21 ปี เพิ่งจะจรดน้ำหมึกต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปถึงปี 2023 จนทำให้ค่าตัวของเขาน่าจะสูงพอตัว อย่างไรก็ตามในรายละเอียดสัญญาฉบับล่าสุดนั้นเจ้าตัวจะสามารถย้ายออกไปได้ในราคาเพียง 38 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,537 ล้านบาท) แต่จะสามารถใช้ได้เมื่อถึงตลาดซัมเมอร์ปีหน้าเท่านั้น 

คอเนอร์ เคาดี้ – วูล์ฟแฮมป์ตัน

    เคาดี้ เคยอยู่กับทีมชุดเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2005 ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 แต่ได้ลงเล่นเพียงเกมเดียวในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ก่อนจะย้ายออกไปอยู่กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (ยืมตัว), ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ก่อนจะมาเป็นกำลังสำคัญให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน จนถึงปัจจุบัน

    ผลงานของดาวเตะวัย 27 ปี พัฒนาขึ้นตามลำดับช่วยให้แนวรับของทีม "หมาป่า" แข็งแกร่งสุดๆ จนกลายเป็นกัปตันทีมในเวลานี้ พร้อมกับถูก แกเร็ธ เซาธ์เกต เรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่โดยลงเล่นไปแล้ว 3 เกม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่คงเนอีกดีลที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะ วูล์ฟส ก็ไม่ต้องการจะปล่อยตัวออกไปเช่นกัน    

โอซาน คาบัค – ชาลเก้

    ชื่อของ โอซาน คาบัค ปราการหลังดาวรุ่งจาก ชาลเก้ เคยโผล่เข้ามาเป็นเป้าหมายรายใหม่ของ ลิเวอร์พูล ในการดึงมาเสริมแกร่งแนวรับในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาเสีย เดยัน ลอฟเรน กองหลังประสบการณ์สูงให้กับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โดยคาดว่าเขาจะมีค่าตัว 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,630 ล้านบาท)

    ด้วยสไตล์การเล่นที่มีความดุดัน มีทั้งความแข็งแกร่ง รวดเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ทำให้เขาถูกสื่อต่างประเทศนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังจาก เรอัล มาดริด นอกจากนี้ คาบัค ยังเป็นนักเตะที่มีความกล้าลุยกล้าแลก ชนไม่ถอยจนถึงกับเคยจมูกหัก หน้าแตกมาแล้วในเกมเพลย์ออฟหนีตกชั้นกับยูเนียน เบอร์ลิน

เบน ไวท์ – ไบรท์ตัน

    ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวตามให้ความสนใจ ไวท์ วัย 22 ปี มาได้สักระยะแล้ว และล่าสุดมีรายงานด้วยว่าพวกเขาอาจเดินหน้าดึงมาเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวนี้ แต่ "หงส์แดง" อาจต้องจ่ายเงินมากกว่า 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท)  ไม่งั้นต้นสังกัดของนักเตะไม่ปล่อยตัวแน่นอน

    แม้ว่าดาวเตะวัย 22 ปี จะไม่ได้เป็นกำลังหลักของ ไบรท์ตัน ในซีซั่นนี้แต่เมื่อมีโอกาสลงสนามเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีระดับหนึ่ง โดยย้อนไปในฤดูกาล 2019-20 เขาเป็นกำลังสำคัญในระหว่างเล่นให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว ได้แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับได้เลื่อนชั้นไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้

เปิดโผทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก นัดที่ 5

ทีมยอดแย่พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ที่ 5 จะมีใครบ้าง ทีมงาน Siamsport จัดให้แฟนๆ ได้ชมกัน ไปดูได้เลย

ผู้รักษาประตู : เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)

แม้จะมีช็อตเซฟในช่วงท้ายเกม แต่จังหวะเสียประตูที่เกิดจากความผิดพลาด(อีกแล้ว) นับเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้น

กองหลัง : โจเอล วอร์ด (คริสตัล พาเลซ)

จริงๆ ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐานเกือบตลอดทั้งเกม แต่มาสกัดบอลไม่ดีในช่วงท้ายจนทำให้ พาเลซ เสียประตูตีเสมอ อดคว้า 3 แต้มเหนือ ไบรท์ตัน ในบ้านตัวเอง

กองหลัง : ดาวินซอน ซานเชซ (สเปอร์ส)

เป็นเกมที่ไม่น่าจดจำสำหรับปราการหลังทีมชาติโคลอมเบีย เพราะนอกจากคุมแนวรับหลวมแล้ว ยังโหม่งเข้าประตูตัวเอง พร้อมเป็นการจุดประกายความหวังให้กับทีมเยือนด้วย

กองหลัง : ลูอิส ดังค์ (ไบรท์ตัน)

ตลอดทั้งเกมไม่ต้องรับภาระหนักมากกับการเจอแนวรุกของ พาเลซ แต่ในช่วงท้ายเกม เจ้าตัวไปเล่นอันตรายใส่คู่แข่งแบบรุนแรง จึงทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม

กองหลัง : เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ (นิวคาสเซิล)

โดนแนวรุก แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงานในช่วงท้ายจนทีมเสียถึง 3 ประตู

กองหลัง : เอคตอร์ เบเยริน (อาร์เซน่อล)

ยืนตำแหน่งผิดพลาด และควรที่จะเคลียร์บอลทิ้งได้ก่อนที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำประตู

กองกลาง : ยูรี่ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)

เรื่องเกมรับยังคงไว้ใจได้ แต่โดยภาพรวมถือว่าแข้งเบลเจี้ยนต่ำกว่ามาตรฐานไปเยอะ คุมเกมไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น

กองกลาง : อัลลัน (เอฟเวอร์ตัน)

โดนแผงมิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล กดดัน และต้องใช้เกมหนักเข้าหยุดคู่แข่ง ก่อนมาโดนใบเหลืองช่วงท้ายเกม
   
กองกลาง : ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)

มีโอกาสทำประตูแต่โชคร้ายบอลไปชนเสา ก่อนมาโดนไล่ออกช่วงท้ายเกม หลังไปสกัดเข้าใส่ ติอาโก้ อัลกันตาร่า อย่างรุนแรง

กองหน้า : เคลิชี่  อิเฮียนาโช่ (เลสเตอร์)

แม้ครึ่งแรกจะเก็บบอลได้ดี และจ่ายบอลสวยๆ หลายครั้ง แต่ในครึ่งหลังกลับคนละเรื่อง ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเลย

กองหน้า : แพทริค แบมฟอร์ด (ลีดส์)

ไม่ได้สร้างความอันตรายให้แก่แนวรับ วูล์ฟส์ ได้เลย มีโอกาสส่องประตู 3 ครั้งแต่พลาดเป้าไปหมด

อยู่ต่อหรือย้าย?สื่อเผยอนาคตตราโอเร่กับวูล์ฟส์

อดาม่า ตราโอเร่ ปีกร่างบึ้กของ วูล์ฟส์ ใกล้ที่จะต่อสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2024 โดยเขาจะได้ค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ด้วย จากการเปิดเผยของ เดอะ ซัน สื่อของอังกฤษ

อดาม่า ตราโอเร่ ปีกคนเก่งของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ใกล้ที่จะตกลงต่อสัญญากับต้นสังกัดแล้ว ตามรายงานของ เดอะ ซัน สื่อของเมืองผู้ดี

ตราโอเร่ ทำผลงานได้โดดเด่นกับ วูล์ฟส์ มาพักหนึ่งแล้ว ซึ่งมันก็ทำให้เขาตกเป็นข่าวกับหลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วทวีปยุโรปในตลาดการเสริมทัพรอบล่าสุดตามไปด้วย อย่างเช่น ลิเวอร์พูล และ บาร์เซโลน่า เป็นต้น แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ย้ายไปไหน

ทั้งนี้ เดอะ ซัน บอกว่าสัญญาฉบับใหม่ของ ตราโอเร่ จะมีระยะเวลา 4 ปี ทำให้จากเดิมที่เหลือสัญญากับทีมจนถึงปี 2023 ก็จะยืดไปเป็นจนถึงปี 2024 และเขาก็จะได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น 2 เท่าจนทำให้ได้เงินถึงสัปดาห์ละ 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 4 ล้านบาท)

 

โรนัลโด้ติดโควิดอาจสะเทือนถึงหัวใจแมนยู

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ติดโควิดสะเทือนมาถึง พรีเมียร์ลีก เหตุอาจทำให้สตาร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องอดลงเล่น ขณะที่ วูล์ฟส์ ลุ้นหนักมีไปเล่นให้ทีมชาติโปรตุเกสถึง 5 คน
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะหมดสิทธิ์ใช้งาน บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลางคนเก่ง ถึง 4 นัดหากต้องใช้เวลากักตัวเอง หลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกส ถูกตรวจพบว่า ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันอังคารที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา

    กองหน้าซูเปอร์สตาร์จาก ยูเวนตุส ต้องกักตัวเองส่งผลให้จะอดลงช่วยทีมชาติโปรตุเกส ลงเตะกับ สวีเดน ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม 3 ลีก เอ วันพุธที่ 14 ต.ค. นี้ หลังจากที่เพิ่งเล่นให้ทัพฝอยทองในเกมบุกไปเสมอทีมชาติฝรั่งเศส 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    แม้นักเตะคนอื่นๆ ในทีมชาติโปรตุเกส จะมีผลตรวจออกมาเป็นลบ แต่ อา โบล่า สื่อแดนฝอยทอง รายงานว่า ตามมาตรการของรัฐบาลอังกฤษ คนที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องกักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และยังไม่มีความชัดเจนว่า นักเตะทีมชาติโปรตุเกส จะได้รับการยกเว้นหรือไม่

    หาก บรูโน่ ต้องใช้เวลากักตัวเองก็จะส่งผลให้พลาดลงช่วย แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมพบ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (แชมเปี้ยนส์ ลีก), เชลซี และ แอร์เบ ไลป์ซิก (แชมเปี้ยนส์ ลีก)

    นอกจาก บรูโน่ แล้วนั้น ยังมีนักเตะใน พรีเมียร์ลีก อีกหลายรายที่ติดทีมชาติโปรตุเกส และมีความใกล้ชิดกับ โรนัลโด้ โดยเฉพาะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่มีถึง 5 คน (รุย ปาทริซิโอ, เนลซอน เซเมโด้, รูเบน เนเวส, ชูเอา มูตินโญ่ และ แดเนียล โพเดนซ์), แมนฯ ซิตี้ 3 คน (ชูเอา กันเซโล่, รูเบน ดิอาส และ แบร์นาโด้ ซิลวา) และ ลิเวอร์พูล 1 คน (ดิโอโก้ โชต้า)

ลิเวอร์พูลหืด-แมนยูใส!พี่มาร์คฟันธงพรีเมียร์ฯ

กูรูดังแดนผู้ดีฟันธง พรีเมียร์ลีก วีกนี้ เชื่อ ลิเวอร์พูล ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด ไม่ง่าย ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน และ แอสตัน วิลล่า สองทีมที่ยังไม่แพ้จะพลาดพร้อมกัน
    มาร์ค ลอว์เรนสัน นักวิเคราะห์เกมคนดังของ บีบีซี สื่อชั้นนำของอังกฤษ ออกโรงแสดงทรรศนะถึงฟุตบอล พรีเมียร์ลีก นัดที่ 6 ของฤดูกาล 2020/21 โดยเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านชนะ เชลซี 2-0 ส่วน ลิเวอร์พูล เฉือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หืดจับ 2-1

    ทรรศนะของ ลอว์เรนสัน
    วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม

แอสตัน วิลล่า แพ้ ลีดส์ 1-2

    วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม

เวสต์แฮม เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
ฟูแล่ม แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-0
ลิเวอร์พูล ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1

    วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม

เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0
วูล์ฟส์ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0
อาร์เซน่อล ชนะ เลสเตอร์ 2-1

    วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม

ไบรท์ตัน ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0    
เบิร์นลี่ย์ ชนะ สเปอร์ส 2-1

พลิกไปพลิกมา!บ่อนปรับราคาแชมป์พรีเมียร์ฯ

ร้านพูลเมืองผู้ดี ปรับราคาแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกรอบ หลังเห็นอาการ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยดี ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ เริ่มน่ากลัวมากขึ้น
   
บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายแทบทุกแห่งในประเทศอังกฤษ ปรับราคาให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับขึ้นมาเป็นเต็ง 1 คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020/21 อีกครั้ง หลังจากเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เฉือนชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ ลิเวอร์พูล หล่นไปเป็นเต็ง 2

นัดล่าสุด "หงส์แดง" บุกไปเสมอ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมือง 2-2 หลังจากเกมที่แล้วแพ้ แอสตัน วิลล่า เละเทะ 2-7 แต่สิ่งที่ทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล กังวลใจมากที่สุดคืออาการบาดเจ็บหัวเข่าของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวเก่ง ที่มีรายงานว่า อาจต้องพักทั้งซีซั่นเลยทีเดียว
  
วิลเลี่ยม ฮิลล์ ร้านพูลชื่อดังเมืองผู้ดี ยกให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นเต็ง 1 ที่อัตราต่อรอง 10/11 (แทง 11 จ่าย 10 ไม่รวมทุน) ส่วน ลิเวอร์พูล หล่นเป็นเต็ง 2 ราคา 2/1 (แทง 1 จ่าย 2 ไม่รวมทุน) ตามมาด้วย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่อัตราต่อรอง 12/1 (แทง 1 จ่าย 12 ไม่รวมทุน)

อัตราต่อรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ วิลเลี่ยม ฮิลล์

1. แมนฯ ซิตี้         10/11 (แทง 11 จ่าย 10 ไม่รวมทุน)
2. ลิเวอร์พูล        2/1
3. สเปอร์ส            12/1
4. เชลซี            16/1
5. เอฟเวอร์ตัน        20/1
6. อาร์เซน่อล        25/1
7. แมนฯ ยูไนเต็ด        40/1
8. เลสเตอร์        66/1
9. ลีดส์            125/1
9. แอสตัน วิลล่า        125/1
11. วูล์ฟส์            200/1
11. เซาธ์แฮมป์ตัน        200/1
13. นิวคาสเซิ่ล        500/1
13. เวสต์แฮม        500/1
15. คริสตัล พาเลซ        750/1
15. ไบรท์ตัน        750/1
15. เบิร์นลี่ย์        750/1
18. เชฟฯ ยูไนเต็ด        1,000/1
19. เวสต์บรอมวิช        1,500/1
20. ฟูแล่ม            2,000/1

 

 

บ่อนปรับราคาแชมป์พรีเมียร์ฯ-ยังมองข้ามแมนยูแม้เสริมหนัก,เอฟเวอร์ตันแรง

ร้านพูลเมืองผู้ดี ยังไม่เชื่อน้ำยา แมนฯ ยูไนเต็ด ให้เป็นแค่เต็ง 7 คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แม้เสริมทัพหลายรายก็ตาม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังเต็ง 1 ส่วน เอฟเวอร์ตัน มาแรงหลังเปิดซีซั่นเยี่ยม
    วิลเลี่ยม ฮิลล์ บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ ปรับอัตราต่อรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ปิดตลาดซื้อขายนักเตะระหว่างประเทศไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยยังคงมองข้าม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ปิดดีลแข้งใหม่ได้ถึง 5 คนในวันสุดท้ายก็ตาม

    ก่อนหน้านี้ "ปีศาจแดง" ได้ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค กองกลางดัตช์ แค่คนเดียว แต่ในวันสุดท้ายของตลาดจัดการรวบทั้ง อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียน, ดิยัลโล่ ตราโอเร่ ปีกดาวรุ่ง, เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังทีมชาติอุรุกวัย, ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งชาวอุรุกวัย และ วิลลี่ ก็อมบวาล่า เซนเตอร์แบ็กชาวฝรั่งเศสวัย 16 ปี

    อย่างไรก็ตาม ร้านพูลเมืองผู้ดียังให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแค่เต็ง 7 ที่อัตราต่อรอง 40/1 (แทง 1 จ่าย 40 ไม่รวมทุน) ขณะที่เต็ง 1 ยังเป็นของ ลิเวอร์พูล ที่ราคา 5/4  (แทง 4 จ่าย 5 ไม่รวมทุน) ตามมาด้วย แมนฯ ซิตี้ ที่อัตราต่อรอง 6/4  (แทง 4 จ่าย 6 ไม่รวมทุน)

อัตราต่อรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ของ วิลเลี่ยม ฮิลล์
1. ลิเวอร์พูล   5/4  (แทง 4 จ่าย 5 ไม่รวมทุน)
2. แมนฯ ซิตี้  6/4
3. เชลซี    14/1
4. เอฟเวอร์ตัน  18/1
5. อาร์เซน่อล  22/1
5. สเปอร์ส   22/1
7. แมนฯ ยูไนเต็ด  40/1
8. เลสเตอร์  66/1
9. แอสตัน วิลล่า   125/1
10. ลีดส์   200/1
10. วูล์ฟส์   200/1
10. เซาธ์แฮมป์ตัน  200/1
13. เวสต์แฮม  500/1
13. นิวคาสเซิ่ล  500/1
15. ไบรท์ตัน  750/1
15. เบิร์นลี่ย์  750/1
15. คริสตัล พาเลซ  750/1
18. เชฟฯ ยูไนเต็ด  1,000/1
19. เวสต์บรอมวิช  1,500/1
20. ฟูแล่ม   2,000/1

18เอเยนต์ฟันธงดีลลิเวอร์พูลเจ๋ง-ห่วยสุดคาวานี่

รอดูกัน! สื่อเมืองผู้ดีจับ 18 เอเยนต์มาวิเคราะห์ดีลเจ๋งสุดและห่วยสุดประจำซัมเมอร์ มอง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ควรคว้า เอดินสัน คาวานี่ เพราะอายุเยอะ แถมค่าเหนื่อยแพงอีกต่างหาก

ดิ แอธเลติก สื่ออังกฤษ สอบถามความเห็นจากเอเยนต์นักเตะ 18 รายว่า ช่วงเปิดตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา การย้ายทีมของใครที่เป็นดีลแย่สุดและดีสุด โดยผลออกมาเป็น เอดินสัน คาวานี่ กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กองกลาง ลิเวอร์พูล ตามลำดับ

จากผลสำรวจมี 28 เปอร์เซ็นต์ที่มองว่า "ปีศาจแดง" ไม่ควรดึง คาวานี่ มาเข้าถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เนื่องจากอายุ 33 ปีแล้ว แถมยังต้องจ่ายค่าเหนื่อยสูงถึง 200,000 ปอนด์ (ประมาณ 8 ล้านบาท) ต่อสัปดาห์ แม้ไม่ต้องเสียค่าตัวเนื่องจากเป็นนักเตะไร้สังกัดก็ตาม

ผลโหวตดีลห่วยสุดประจำซัมเมอร์

เอดินสัน คาวานี่ มา แมนฯ ยูไนเต็ด        28 เปอร์เซ็นต์
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค มา แมนฯ ยูไนเต็ด        11 เปอร์เซ็นต์
นาธาน อาเค่ มา แมนฯ ซิตี้            6 เปอร์เซ็นต์
อาหมัด ดิยัลโล่ มา แมนฯ ยูไนเต็ด         6 เปอร์เซ็นต์
เกรดี้ ดิอังกาน่า มา เวสต์บรอมวิช            6 เปอร์เซ็นต์
เวสเล่ย์ โฟฟาน่า มา เลสเตอร์            6 เปอร์เซ็นต์
ไค ฮาแวร์ทซ์ มา เชลซี            6 เปอร์เซ็นต์
โธมัส ปาร์เตย์ มา อาร์เซน่อล            6 เปอร์เซ็นต์
คัลลั่ม โรบินสัน มา เวสต์บรอมวิช        6 เปอร์เซ็นต์   
เนลซอน เซเมโด้ มา วูล์ฟส์            6 เปอร์เซ็นต์
ฟาบิโอ ซิลวา  มา วูล์ฟส์            6 เปอร์เซ็นต์
คาร์ลอส วินิซิอุส มา สเปอร์ส            6 เปอร์เซ็นต์
วูล์ฟส์ ขาย แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้            6 เปอร์เซ็นต์

 

ผลโหวตดีลเจ๋งสุดประจำซัมเมอร์

ติอาโก้ อัลกันตาร่า มา ลิเวอร์พูล            28 เปอร์เซ็นต์
ฮาเมส โรดริเกซ มา เอฟเวอร์ตัน            22 เปอร์เซ็นต์
อัลลัน มา เอฟเวอร์ตัน                11 เปอร์เซ็นต์
คัลลัม วิลสัน มา นิวคาสเซิ่ล            11 เปอร์เซ็นต์
แกเร็ธ เบล มา สเปอร์ส            6 เปอร์เซ็นต์
เบน ก็อดฟรีย์ มา เอฟเวอร์ตัน            6 เปอร์เซ็นต์
ดิโอโก้ โชต้า มา ลิเวอร์พูล            6 เปอร์เซ็นต์
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ มา แอสตัน วิลล่า        6 เปอร์เซ็นต์
โธมัส ปาร์เตย์ มา อาร์เซน่อล            6 เปอร์เซ็นต์
 

เรือเป่าปาก! “เดอ บรอยน์” เด่นแมนซิตี้ประเดิมชัยเรียงหน้าอัดวูล์ฟส์

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ ”เรือใบสีฟ้า” ทีมรองแชมป์เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้าหลังบุกเชือด วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 จากฟอร์มสุดฮอตของ เควิน เดอ บรอยน์ ทั้งยิง-ทั้งจ่ายก่อนได้ กาเบรียล เชซุส ช่วยบวกสกอร์ปิดกล่อง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

สนาม : โมลินิวซ์ กราวนด์

    นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เทรนเนอร์ วูล์ฟแฮมป์ตัน ประเดิมศึกพรีเมียร์ลีกมาได้อย่างยอดเยี่ยม บุกไปอัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 ถึงถิ่นเก็บชัยชนะนัดแรกได้สำเร็จ แต่ล่าสุด โดน สโต๊ค ซิตี้ จากแชมเปี้ยนชิพ เขี่ยตกรอบในศึก คาราบาว คัพ หลังเปิดบ้านพ่าย 0-1

    ทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ของ แมนฯ ซิตี้ พาทีมจบอันดับ 2 มาในฤดูกาลที่แล้ว โดยเกมล่าสุด ”เรือใบสีฟ้า” โดน โอลิมปิก ลียง เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาด้วยสกอร์ 1-3

    2 นาทีผ่าน เจ้าถิ่น เกือบแย่เป็น วิลลี่ โบลี่ ไปเสียเหลี่ยมโดน ราฮีม สเตอร์ลิง ชิงจังหวะกระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษเดือดร้อน คอนอร์ เคาดี้ ต้องมาทิ้งตัวสไลด์ สเตอร์ลิง ร่วงลงไปโชคดี อังเดร มาริเนอร์ มองเห็นว่าปีกชาวอังกฤษพุ่งล้ม

    นาทีที่ 8 "หมาป่า" ต้องขยับเปลี่ยนตัวเร็วเป็น แฟร์นานโด มาร์ชาล บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ต้องส่ง รูเบน วินาเกร ลงสนามแทน

    ต่อมานาทีที่ 10 โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของ ”เรือใบสีฟ้า” จากจังหวะเข้าพรวดของ เปรโด เนโต้ ไปทำฟาวล์ใส่ กาเบรียล เชซุส เสียฟรีคิกระยะอันตรายและเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นด้วยขวาบอลเกือบเสียบใต้คานแต่ยังติดเซฟ รุย ปาตริซิโอ

    แต่แล้วนาทีที่ 19 แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำจนได้เป็น ฟิล โฟเด้น จ่ายตัดแนวรับให้  เควิน เดอ บรอยน์ สอดมารับบอลในกรอบเขตโทษก่อนโดน โรแม็ง ซาอิสส์ กวาดขาร่วงลงไป ผู้ตัดสิน ไม่รอช้าชี้เป็นจุดโทษทันที เดอ บรอยน์ ลุกขึ้นมาสังหารลูกนี้ไม่พลาด

    นาทีที 30 ”เรือใบสีฟ้า” โหมอยู่ข้างเดียวคราวนี้ ฟิล โฟเด้น จ่ายเร็วให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปแต่งด้วยเท้าขวาก่อนตวัดด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัว รุย ปาตริซิโอ รับไว้ได้
   
    2 นาทีต่อมา ทีมเยือน มาบวกสกอร์เพิ่มสำเร็จจากการประสานงานสุดสวย เควิน เดอ บรอยน์ แทงออกซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าเขตโทษก่อนตบเข้าในถึง ฟิล โฟเด้น สอดมาแปร์ด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย

    ท้ายครึ่งแรก วูล์ฟแฮมป์ตัน พยายามตอบโต้จากลูกสูตรเตะมุมทางขวาครอสเข้าในให้ ราอูล ฮิเมเนซ สอดเอาชนะแนวรับ แมนฯ ซิตี้ โขกเสาแรกหลุดออกหลังไปไกล

    นาทีที่ 43 ”เรือใบสีฟ้า” พลาดโอกาสทองจากจังหวะตัดบอลกลางสนาม กาเบรียล เชซุส โขกส่งให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเดี่ยวเข้ามาในเขตโทษแต่ลูกยิงด้วยซ้ายไปติดแขน รุย ปาตริซิโอ เซฟเอาไว้ได้เหลือเชื่อ

    หมดครึ่งเวลาแรก วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 แมนฯ ซิตี้ 2

    เปิดฉากครึ่งหลังได้ 8 นาที แมนฯ ซิตี้ เกือบหนีห่างไปอีกจากคราวผิดพลาดของ อดาม่า ตราโอเร่ โดนดักตัดกลางสนามสุดท้ายเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ดีดไซค์ก้อยให้ กาเบรียล เชซุส สอดมารับบอลแต่งเข้าซ้ายอัดไปตรงตัว รุย ปาตริซิโอ

    นาทีที่ 54 โอกาสลุ้นตีไข่แตกของ เจ้าถิ่น เป็นจังหวะลุยของ อดาม่า ตราโอเร่ ลากจี้หากรอบเขตโทษสับขาหลอกก่อนจ่ายเข้าในให้ ดาเนียล โปเดนเซ่ หมุนตัวตวัดด้วยซ้ายหลุดสามเหลี่ยมนิดเดียว

    5 นาทีต่อมา "หมาป่า" เริ่มหาช่องเจาะได้มากขึ้นคราวนี้จากจังหวะแก้เพรสซิ่ง รูเบน เนเวส แทงยาวให้ ดาเนียล โปเดนเซ่ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยกบอลข้าม เอแดร์ซอน โมราเอส ข้ามคานเหลือเชื่อ

    ยังไม่หนำใจนาทีต่อมา อดาม่า ตราโอเร่ ใช้ควาเร็วเอาชนะ เบนฌาแม็ง เมนดี้ หลุดขึ้นมาสุดเส้นก่อนตบเข้าในให้ ราอูล ฮิเมเนซ เอียงตัวแปร์ด้วยซ้ายคนเดียวโล่งๆหลุดเสาไกลออกไปเหมือนเดิม

    เอาจนได้นาทีที่ 78 วูล์ฟแฮมป์ตัน ตีไข่แตกสำเร็จจากลูกจ่ายของ ดาเนียล โปเดนเซ่ ถอยมารับบอลริมเส้นฝั่งขวาก่อนแตะลอดขา เควิน เดอ บรอยน์ หยอดไปเสาแรกเข้าหัว ราอูล ฮิเมเนซ โขกเปลี่ยนทางตุงตาข่ายงามหยด

    ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+5  ”เรือใบสีฟ้า” มาปิดกล่องจนได้เป็น กาเบรียล เชซุส ขยันตามไปฉกบอลก่อนซัดแฉลบขา คอนอร์ เคาดี้ เปลี่ยนทางมุดเสาแรกผ่าน รุย ปาตริซิโอ ตุงตาข่าย

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน 1 แมนฯ ซิตี้ 3 รองแชมป์เก่า ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ประเดิมสวยเก็บ 3 คะแนนรั้งอันดับ 9 ของตาราง

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

    วูล์ฟแฮมป์ตัน (3-4-3) : รุย ปาตริซิโอ – วิลลี่ โบลี่, คอนอร์ เคาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ – อดาม่า ตราโอเร่, รูเบน เนเวส, ชูเอา มูตินโญ่, แฟร์นานโด มาร์ชาล – ดาเนียล โปเดนเซ่, ราอูล ฮิเมเนซ, เปรโด เนโต้

ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต    

    แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, เบนฌาแม็ง เมนดี้ – แฟร์นานดินโญ่, โรดรี้ เอร์นานเดซ – ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง – กาเบรียล เชซุส

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาริเนอร์