แมนซิตี้มี”เดอ บรอยน์”บุกมาร์กเซยของ”โตแว็ง”ลุ้นยึดหัวฝูงชปล.

"เรือใบสีฟ้า" แมนซิตี้ จำเป็นต้องเค้นฟอร์มเก่งให้ได้ หลังนัดลีกล่าสุดพลาดเสมอ หากชนะเกมนี้จะยึดหัวฝูงกลุ่มต่อไป งานนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ขับเคลื่อนเกมรุกบุกถิ่น โอลิมปิก มาร์กเซย ที่มี ฟลอริย็อง โตแว็ง เป็นทีเด็ดแมตช์นี้ ในการแข่งขันศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
ปรีวิวยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี
คืนวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2563
โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) – แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)
เวลา : 03.00 น. ถ่ายทอดสด : บีอินส์ สปอร์ต 1
สนาม : ออเร้นจ์ เวโลโดรม

    โอแอ็ม สตาร์ตรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. ด้วยการออกไปแพ้โอลิมเปียกอส 0-1 และบุกชนะลอริยองต์ 1-0 ในเกมลีก เอิง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    กุนซือ อันเดร วิลลาช-โบอาช ไร้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บและติดโทษแบน หลังจากได้ ดิมิทรี ปาเยต มิดฟิลด์เชิงรุกพ้นโทษแบน 2 นัด ในลีก เอิง กลับมาพร้อมช่วยทีม ส่วนบูบาการ์ กามาร่า แข้งทีมชาติฝรั่งเศส ชุดยู-21 หายเจ็บที่หน้าแข้ง กลับคืนสนามแล้ว

    เกมนี้ สตีฟ ม็องด็องด้า นายทวารกัปตันทีมลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้ และ จอร์ดาน อมาวี่

    แดนกลาง วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์ ขับเคลื่อนเกมร่วมกับ บูบาการ์ กามาร่า และ มอร์กกาน ซ็องซง 

    แผงรุกจัดสามประสาน ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ และ ดิมิทรี ปาเยต ลงประสานงานกัน
       
    แมนฯ ซิตี้ เริ่มต้นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการพิชิตปอร์โต้ 3-1 และเสมอเวสต์แฮม 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด

    กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขาดตัวเจ็บอย่าง แฟร์นันดินโญ่, เบนฌาแม็ง เมนดี้ และ กาเบรียล เชซุส 

    ส่วน เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเพิ่มต้องรอทดสอบความฟิต ซึ่งโอกาสชวดสูงมาก เช่นเดียวกับ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ นาธาน อาเก้ สองแนวรับที่ไม่สมบูรณ์

    ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ฟิตกลับมาเป็นสำรองได้ในเกมล่าสุด และน่าจะกลับมาออกสตาร์ตตัวจริง โดย ราฮีม สเตอร์ลิง จะยืนเป็นหน้าเป้า พร้อมเปิดโอกาสให้ เฟร์ราน ตอร์เรส และ ฟิล โฟเด้น สลับมาเป็น 11 คนแรก

    แดนกลาง โรดรี้ เอร์นานเดซ กับ อิลคาย กุนโดกัน คอยขับเคลื่อนเกม

    สำหรับแนวรับยึดชุดเดิม ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เช่นเดียวกับนายประตู เอแดร์ซอน โมราเอส
    

11 นักเตะตามคาด   

    โอลิมปิก มาร์กเซย (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า – ฮิโรกิ ซากาอิ, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, เลโอนาร์โด้ บาเลร์ดี้, จอร์ดาน อมาวี่ – วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์, บูบาการ์ กามาร่า, มอร์กกาน ซ็องซง – ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้, ดิมิทรี ปาเยต

    เทรนเนอร์ : อันเดร วิลลาช-โบอาช

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, เอริก การ์เซีย, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ – เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง, ฟิล โฟเด้น

    เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า 

    ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์ (เยอรมัน)    

แมนยูเสริมอย่างโหด!สรุปดีลการโยกย้ายทีมวันปิดตลาดนักเตะ

เห็นเงียบๆ แต่สอยเพียบนะครัช!!!… "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดดีลแข้งใหม่ถึง 5 ราย ชนิดจุใจสาวก "เร้ด อาร์มี่" ในวันปิดตลาดนักเตะเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ อาร์เซน่อล ก็ได้ตัว โธมัส ปาร์เตย์ สมใจอยาก หลังจากที่ไล่ล่าตัวมานาน ส่วนทางฝั่งทีมแชมป์ยุโรปอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ก็เร่งเครื่องในวันสุดท้ายเช่นกัน โดยเซ็นเข้ามาเพิ่มถึง 3 คน และนี่คือบทสรุปดีลเด่นๆ ในรอบวันปิดตลาด 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา (อัพเดตล่าสุดถึงเวลา 06.00 น. เช้าวันอังคารที่ 6 ต.ค. ตามเวลาประเทศไทย)

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า อเล็กซ์ เตลเลส แบ็กซ้ายชาวบราซิเลียน มาจาก ปอร์โต้ ด้วยสัญญา 4 ปี (มีออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี) ส่วนค่าตัวเบื้องต้นอยู่ที่ 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) + ออปชั่น 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)
  – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศปิดดีลคว้าตัว อาหมัด ดิยัลโล่ ตราโอเร่ ปีกดาวรุ่ง อตาลันต้า มาร่วมทัพ โดย ดาวเตะวัย 18 ปี จะย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ค่าตัว 21 ล้านยูโร (ประมาณ 777 ล้านบาท) + ออปชั่น 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท)

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังทีมชาติอุรุกวัย มาร่วมทัพแบบไม่มีค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี + ออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งชาวอุรุกวัย มาจาก เปนญารอล ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)

– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า เอดินสัน คาวานี่ กองหน้าดาวดังทีมชาติอุรุกวัย มาร่วมทัพแบบไม่มีค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี + ออปชั่นเซ็นเพิ่มอีก 1 ปี
 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ปีกดาวรุ่งชาวอุรุกวัย มาจาก เปนญารอล ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)

– ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้า ราฟินญ่า ปีกเลือดแซมบ้า มาจาก แรนส์ ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 17 ล้านยูโร (ประมาณ 629 ล้านบาท) + ออปชั่นอีก 6 ล้านยูโร (ประมาณ 222 ล้านบาท)
 – ฟูแล่ม เซ็นสัญญายืมตัว โยอาคิม อันเดอร์เซ่น เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์เลือดโคนมของ โอลิมปิก ลียง มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล 
 – ฟูแล่ม คว้า โทซิน อดาราบิโอโย่ เซนเตอร์แบ็กร่างโย่งเลือดผู้ดี มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสัญญา 3 ปี
 – ฟูแล่ม เซ็นสัญญายืมตัว รูเบน ลอฟตัส-ชีค กองกลางร่างใหญ่ของ เชลซี มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล แต่ไม่มีออปชั่นซื้อขาด

 – เอฟเวอร์ตัน คว้า เบน ก็อดฟรีย์ เซนเตอร์แบ็กเลือดผู้ดี มาจาก นอริช ซิตี้ ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,025 ล้านบาท) + ออปชั่น 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 205 ล้านบาท)
 – เอฟเวอร์ตัน เซ็นสัญญายืมตัว โรบิน โอลเซ่น ผู้รักษาประตูทีมชาติสวีเดนของ อาแอส โรม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – เซาธ์แฮมป์ตัน เซ็นสัญญายืมตัว ธีโอ วัลค็อตต์ กองหน้าฝีเท้าจรวดของ เอฟเวอร์ตัน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 ลา ลีกา สเปน

 – เซบีย่า คว้า อุสซามา อิดริสซี่ ปีกทีมชาติโมร็อกโก มาจาก อาแซด อัล์คมาร์ ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 12 ล้านยูโร (ประมาณ 444 ล้านบาท)
 – เซบีย่า คว้า คาริม เรกิก กองหลังชาวดัตช์ มาจาก แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ด้วยสัญญา 5 ปี ค่าตัว 4 ล้านยูโร (ประมาณ 148 ล้านบาท)

 – แอตเลติโก มาดริด เซ็นสัญญายืมตัว ลูคัส ตอร์เรร่า กองกลางทีมชาติอุรุกวัยของ อาร์เซน่อล มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
 – ยูเวนตุส เซ็นสัญญายืมตัว เฟเดริโก้ เคียซ่า ปีกทีมชาติอิตาลีของ ฟิออเรนติน่า มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาล โดยที่มีเงื่อนไขบังคับซื้อขาดที่ราคา 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) + ออปชั่น 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท) หากนักเตะทำผลงานได้ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงกันไว้

 – อินเตอร์ มิลาน เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตโอ ดาร์เมียน ฟูลแบ็ก ปาร์ม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – นาโปลี เซ็นสัญญายืมตัว ตีเอมูเอ้ บากาโยโก้ กองกลางเฟร้นช์แมนของ เชลซี มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ฟิออเรนติน่า คว้า โฆเซ่ มาเรีย กาเยฆ่อน ปีกชาวสแปนิช มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว (นักเตะหมดสัญญากับ นาโปลี)
 – ฟิออเรนติน่า เซ็นสัญญายืมตัว อันโตนิโอ บาเร็กก้า ฟูลแบ็กชาวอิตาเลียนของ อาแอส โมนาโก มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 – อาแอส โรม่า คว้า คริส สมอลลิ่ง เซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์เลือดผู้ดี มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญา 3 ปี ค่าตัว 15 ล้านยูโร (ประมาณ 555 ล้านบาท) + ออปชั่น 5 ล้านยูโร (ประมาณ 185 ล้านบาท)
 – เฮลลาส เวโรน่า คว้า นิโกล่า คาลินิช หัวหอกชาวโครแอต มาจาก แอตเลติโก มาดริด ด้วยสัญญา 2 ปี
 – อูดิเนเซ่ เซ็นสัญญายืมตัว เคราร์ด เดวโลเฟว กองหน้าชาวสแปนิชของ วัตฟอร์ด มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – อูดิเนเซ่ เซ็นสัญญายืมตัว อิ๊กนาซิโอ ปุสเซ็ตโต้ ปีกชาวอาร์เจนไตน์ของ วัตฟอร์ด มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 บุนเดสลีกา เยอรมัน
 – แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตโอ เกนดูซี่ กองกลางดาวรุ่ง อาร์เซน่อล มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล แต่ไม่มีออปชั่นซื้อขาด
 – แฮร์ธ่า เบอร์ลิน คว้า โอมาร์ อัลเดเรเต้ เซนเตอร์แบ็กทีมชาติปารากวัย มาจาก บาเซิ่ล ด้วยสัญญาระยะยาว แต่ค่าตัวไม่มีการเปิดเผย 

 – บาเยิร์น มิวนิค คว้า บูน่า ซาร์ แบ็กขวาชาวฝรั่งเศส มาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 10 ล้านยูโร (ประมาณ 370 ล้านบาท)
 – บาเยิร์น มิวนิค เซ็นสัญญายืมตัว ดั๊กลาส คอสต้า ปีกจรวดชาวบราซิเลียนของ ยูเวนตุส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – บาเยิร์น มิวนิค คว้า เอริค มักซิม ชูโป-โมติง กองหน้าร่างใหญ่ทีมชาติแคเมอรูน มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว (หมดสัญญากับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง) ด้วยสัญญา 1 ปี 

– แอร์เบ ไลป์ซิก เซ็นสัญญายืมตัว จัสติน ไคลเวิร์ต ปีกชาวดัตช์ของ อาแอส โรม่า มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – ฮอฟเฟ่นไฮม์ เซ็นสัญญายืมตัว เซบาสเตียน รูดี้ กองกลาง ชาลเก้ 04 มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ฮอฟเฟ่นไฮม์ เซ็นสัญญายืมตัว ไรอัน แซสเซอญง แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 ลีก เอิง ฝรั่งเศส
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เซ็นสัญญายืมตัว มอยเซ่ คีน กองหน้าดาวรุ่งของ เอฟเวอร์ตัน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เซ็นสัญญายืมตัว ดานิโล่ เปเรยร่า กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของ ปอร์โต้ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า
 – ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้า ราฟินญ่า กองกลางชาวบราซิเลียน มาจาก บาร์เซโลน่า ด้วยสัญญา 3 ปี ค่าตัว 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)

– โอลิมปิก มาร์กเซย เซ็นสัญญายืมตัว มิกกาแอล กุยซ็องส์ กองกลางดาวรุ่งเลือดน้ำหอมของ บาเยิร์น มิวนิค มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – โอลิมปิก ลียง เซ็นสัญญายืมตัว มัตเตีย เด ชีโย่ ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติอิตาลีของ ยูเวนตุส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – แซงต์-เอเตียน เซ็นสัญญายืมตัว พานาจิโอติส เรตซอส กองหลังทีมชาติกรีซของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ที่ราคา 6.5 ล้านยูโร (ประมาณ 240.5 ล้านบาท)
 – นีซ เซ็นสัญญายืมตัว เจฟฟ์ แรน-อเดลาอิด กองกลางเลือดน้ำหอมของ โอลิมปิก ลียง มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดช่วงซัมเมอร์ปีหน้า ที่ราคา 25 ล้านยูโร (ประมาณ 925 ล้านบาท)

 ดีลอื่นๆ ที่น่าสนใจ
 – เบนฟิก้า เซ็นสัญญายืมตัว ฌอง-แคลร์ โตดิโบ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสของ บาร์เซโลน่า มาใช้งานเป็นเวลา 2 ฤดูกาล พร้อมถือออปชั่นซื้อขาดที่ราคา 20 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท)
 – เซลติก เซ็นสัญญายืมตัว ดีเอโก้ ลาซัลต์ แบ็กซ้ายทีมชาติอุรุกวัยของ เอซี มิลาน มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

– อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม คว้า ดาวี่ คลาสเซ่น กองกลางชาวดัตช์ มาจาก แวร์เดอร์ เบรเมน ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 11 ล้านยูโร (ประมาณ 407 ล้านบาท) + ออปชั่น 3 ล้านยูโร (ประมาณ 111 ล้านบาท)
 – โอลิมเปียกอส เซ็นสัญญายืมตัว รูเบน วินาเกร แบ็กซ้ายดาวรุ่งชาวโปรตุกีสของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล

 – เบซิคตัส เซ็นสัญญายืมตัว ราชิด เกซซาล ปีกทีมชาติแอลจีเรียของ เลสเตอร์ ซิตี้ มาใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล
 – เฟเนร์บาห์เช่ คว้า ดีเอโก้ เปร็อตติ ปีกชาวอาร์เจนไตน์ มาจาก โรม่า ด้วยสัญญา 2 ปี พร้อมออปชั่นเซ็นเพิ่มอีกปี 
 

ส่อแววกรุ๊ปออฟเดธ!เปิดลิสต์แบ่งโถจับติ้วรอบแบ่งกลุ่มชปล.2020-21

ตอนนี้ได้บทสรุปแล้วว่าโถการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นยังไงบ้าง โดยทีมจากสเปนอยู่ในโถ 1 กับ โถ 2 ถึงโถละ 2 ทีมเลย ส่วนของอังกฤษนอกจาก ลิเวอร์พูล ที่จองโถแรกเอาไว้แล้วนั้น ที่เหลือก็อยู่ในโถ 2 ทั้งหมด ขณะที่โถ 3 มีทีมจาก อิตาลี ถึง 3 ทีมด้วยกัน

หลังจากศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ ได้บทสรุปไปครบถ้วนเมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา มันก็ทำให้ตอนนี้สามารถจัดแจงโถสำหรับการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มได้เป็นที่เรียบร้อย โดยการจับสลากจะมีขึ้นที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ โถ 1 จะมีทีมจากสเปนถึง 2 ทีม นั่นคือ เรอัล มาดริด กับ เซบีย่า เพราะโถนี้จะเว้นให้เฉพาะทีมแชมป์เก่าของ แชมเปี้ยนส์ ลีก,  ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และแชมป์ลีกของชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงเป็นลำดับต้นๆ ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เท่านั้น ซึ่ง เซบีย่า เป็นแชมป์เก่าของ ยูโรปา ลีก ทำให้พวกเขาได้ขึ้นมาอยู่โถ 1 โดยอัตโนมัติ ส่วน ลิเวอร์พูล ก็ได้อยู่ในโถนี้เช่นกันหลังจากซีซั่นก่อนคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครอง

สำหรับโถ 2 นั้นเต็มไปด้วยทีมหินๆ อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี ซึ่งเป็นตัวแทนจากอังกฤษ, 2 ทีมจาก สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติโก มาดริด รวมถึง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังของเยอรมนี ในขณะที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ก็อยู่โถนี้เช่นกัน

ส่วนในโถ 3 ที่เด่นๆ คงจะหนีไม่พ้น 3 ทีมจากอิตาลีที่อยู่ในโถนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์ มิลาน, ลาซิโอ และ อตาลันต้า นอกจากนี้ แอร์เบ ไลป์ซิก กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก็อยู่ในโถนี้ด้วย ขณะที่ในโถสุดท้ายนั้นมีทีมอย่าง โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค และ โอลิมปิก มาร์กเซย รวมทั้ง แรนส์ ที่ประมาทไม่ได้

ทั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ กราสโนดาร์, มิดทิลแลนด์, อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ และ แรนส์ จะได้เล่นรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยพิธีจับสลากจะเริ่มขึ้นตอนราว 17.00 น. ตามเวลามาตรฐานยุโรปตอนกลาง หรือก็คือประมาณ 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สรุปโถสำหรับการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2020-21

โถ 1 : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), เซบีย่า (สเปน), เรอัล มาดริด (สเปน), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), ยูเวนตุส (อิตาลี), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก (รัสเซีย), เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส)

โถ 2 : บาร์เซโลน่า (สเปน), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), เชลซี (อังกฤษ), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์)

โถ 3 : ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), โอลิมเปียกอส (กรีซ), ลาซิโอ (อิตาลี), กราสโนดาร์ (รัสเซีย), อตาลันต้า (อิตาลี)

โถ 4 : โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย), โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส), คลับ บรูช (เบลเยียม), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมนี), อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี), มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก), แรนส์ (ฝรั่งเศส), เฟเรนช์วารอส (ฮังการี)

    *เงื่อนไขการแบ่งกลุ่ม
    – ทีมจากโถเดียวกันไม่สามารถอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้
    – ทีมจากชาติเดียวกันไม่สามารถอยู่ในกลุ่มเดียวกันได้
    – ทีมจากรัสเซียและยูเครนจะไม่ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันเนื่องจากปัญหาด้านการเมือง ตามการตัดสินของคณะกรรมการฉุกเฉินของ ยูฟ่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 2014 โดยกฎนี้จะยกเลิกก็ต่อเมื่อมีความคืบหน้าในทางที่ดี

อดีตหอกดังชี้แมนยูควรปลดโซลชาพร้อมชี้เป้ากุนซือใหม่

โทนี่ คาสคาริโน่ อดีตหัวหอกรายหนึ่ง ระบุ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ควรจะโดนปลดจากการเป็นกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่วน "ปีศาจแดง" ก็ควรเอา มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาคุมทัพแทน ชี้ ในนัดล่าสุดที่แพ้ พาเลซ นั้น โซลชา ทำการเปลี่ยนแปลงเรื่องต่างๆ ช้าเกินไป

โทนี่ คาสคาริโน่ อดีตกองหน้าคนดังแสดงความเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ควรจะปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมแล้วไปเอา มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด มาคุมทัพแทน

แมนฯ ยูไนเต็ด ประเดิมฤดูกาล 2020-21 ด้วยผลงานอันน่าผิดหวังหลังจากที่แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-3 คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมลีกเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมันก็ทำให้ "ปีศาจแดง" โดนตำหนิอย่างหนัก ขณะที่ ลีดส์ ซึ่งเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมานั้น แพ้ ลิเวอร์พูล แบบหวุดหวิด 3-4 ในนัดแรก ก่อนที่ล่าสุดจะชนะ ฟูแล่ม 4-3

อดีตหัวหอก เชลซี, โอลิมปิก มาร์กเซย และทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เผยระหว่างออกรายการๆ หนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมาว่า "ผมคิดว่าเมื่อวานนี้ โซลชา ทำพลาดหลายอย่าง เพราะเขาควรจะต้องเปลี่ยนตัวให้เร็วกว่านี้ เขาตัดสินใจช้าไป ก่อนหน้านั้นผมได้ดูเกมของ ลีดส์ แล้วค่อยมาดูเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอน 17.30 น. และมันก็ทำให้ผมคิดว่าบางที ยูไนเต็ด อาจจะต้องการบางอย่างที่ต่างออกไป"

"บางอย่างที่ว่าน่ะไม่ได้หมายถึงนักเตะ แต่พวกเขาอาจจะต้องการคนอย่าง บิเอลซ่า พอผมดูเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันก็ทำให้ผมคิดว่าพวกเขาทำสิ่งที่ตรงข้ามกับ ลีดส์ อย่างสิ้นเชิง นั่นคือพวกเขา (แมนฯ ยูไนเต็ด) ไม่กล้าเสี่ยงมากเท่าที่ควร เวลาที่ โอเล่ ตัดสินใจได้ถูกต้องน่ะพวกเขาก็เป็นทีมที่เล่นเกมรุกกันได้ดี และสร้างอันตรายในเกมบุกได้จากทุกส่วนของทีม ซึ่งที่จริงเขาก็เคยตัดสินใจได้ถูกต้องในบางนัด แต่เมื่อวานนี้พวกเขาเล่นกันแบบฝืดๆ, เชื่องช้า และไม่มีอะไรที่สื่อถึงความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แท้จริงได้เลย"

 

ไม่เชื่อน้ำยาแมนยู!บ่อนชูทีมเต็ง1แชมป์ชปล.หลังรู้ผลรอบแบ่งกลุ่ม

soccer="1"

หลังจากมีการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้วนั้น วิลเลี่ยม ฮิลล์ บ่อนรับพนันถูกกฎหมายแห่งหนึ่งก็ชูให้ บาเยิร์น กับ แมนฯ ซิตี้ เป็นเต็ง 1 สำหรับตำแหน่งแชมป์ร่วมกัน ส่วน ลิเวอร์พูล ตามมาติดๆ

บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที บุนเดสลีกา เยอรมัน กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่างก็ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ร่วมสำหรับการได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ไปครอง ด้วยราคา 4/1 (แทง 1 จ่าย 4 ไม่รวมทุน) หลังจากที่มีการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย ตามราคาที่้เปิดโดย วิลเลี่ยม ฮิลล์ บ่อนรับพนันถูกกฎหมายชื่อดังของเมืองผู้ดี

บาเยิร์น มีดีกรีเป็นแชมป์จากเมื่อฤดูกาลก่อน แถมขุมกำลังโดยรวมก็ยังแข็งแกร่งอยู่ ภายหลังนักเตะระดับทีมชุดใหญ่ที่บอกลาทีมไปหลังจบซีซั่นที่แล้วมีเพียง ติอาโก้ อัลกันตาร่า, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อิวาน เปริซิช เท่านั้น แถมยังได้ ลีรอย ซาเน่ ปีกชาวเยอรมันมาร่วมทัพด้วย ส่วน แมนฯ ซิตี้ ก็เสริมทัพเต็มที่ด้วยการเซ็นทั้ง เฟร์ราน ตอร์เรส, นาธาน อาเค่ และ รูเบน ดิอาส แถม โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชื่อดังก็ยังอยู่กับทีมอีกต่างหาก

นอกจากนี้ ในรอบแบ่งกลุ่มทั้งคู่ก็อยู่ในกลุ่มที่ไม่แข็งมากนักจนไม่น่าจะหลุดจากการเป็น 2 อันดับแรกของกลุ่มไปได้ โดย บาเยิร์น อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ แอตเลติโก มาดริด, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และ โลโคโมทีฟ มอสโก ส่วน แมนฯ ซิตี้ ที่อยู่ในกลุ่ม ซี นั้น งานเบากว่าด้วยซ้ำเพราะเพื่อนร่วมกลุ่มประกอบไปด้วย เอฟซี ปอร์โต้, โอลิมเปียกอส และ โอลิมปิก มาร์กเซย ซึ่งปัจจัยทั้งหมดก็ทำให้ทั้ง 2 ทีมถูกยกให้เป็นเต็งแชมป์ร่วมกันในตอนนี้

สำหรับเต็ง 3 ในสายตาของ วิลเลี่ยม ฮิลล์ ได้แก่ ลิเวอร์พูล ที่ราคา 5/1 (แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน) หลังจากที่ตัวหลักของ "หงส์แดง" ยังอยู่กันพร้อมหน้า แถมยังมีแข้งระดับ ติอาโก้ มาเสริมแกร่งอีก ส่วนในรอบแบ่งกลุ่มนั้นงานของพวกเขาก็ไม่ถือว่าหนักมากเกินไป แม้ว่า อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กับ อตาลันต้า จะมีชื่อชั้นดีก็ตาม ขณะที่ มิดทิลแลนด์ ถูกมองว่าน่าจะเป็นเพียงทีมไม้ประดับเท่านั้น

ทั้งนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นเต็ง 4 ในราคา 10/1 (แทง 1 จ่าย 10 ไม่รวมทุน) โดยที่ เรอัล มาดริด ตามมาเป็นเต็ง 5 ด้วยราคา 12/1 (แทง 1 จ่าย 12 ไม่รวมทุน) ส่วน บาร์เซโลน่า กับ ยูเวนตุส เป็นเต็ง 6 ร่วมกันที่ราคา 16/1 (แทง 1 จ่าย 16 ไม่รวมทุน)

สำหรับอัตราต่อรองที่น่าสนใจอื่นๆ นั้น มีอย่างเช่น แอตเลติโก มาดริด กับ เชลซี ที่เป็นเต็ง 8 ร่วมด้วยราคา 20/1 (แทง 1 จ่าย 20 ไม่รวมทุน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเต็ง 10 ที่ราคา 25/1 (แทง 1 จ่าย 25 ไม่รวมทุน) และ อินเตอร์ มิลาน, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมถึง อตาลันต้า ที่เป็นเต็ง 11 ร่วมกันด้วยราคา 33/1 (แทง 1 จ่าย 33 ไม่รวมทุน) เป็นต้น

อัตราต่อรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2020-21 ของ วิลเลี่ยม ฮิลล์ 10 อันดับแรก หลังจากที่มีการจับสลากรอบแบ่งกลุ่มไปแล้ว

    1. บาเยิร์น, แมนฯ ซิตี้ 4/1
    3. ลิเวอร์พูล 5/1
    4. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 10/1
    5. เรอัล มาดริด 12/1
    6. บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส 16/1
    8. แอต. มาดริด, เชลซี 20/1
    10. แมนฯ ยูไนเต็ด 25/1

แมนยูอ้วกแตกเจอทั้งปารีสฯ-ไลป์ซิก หงส์ไม่ยาก โด้วัดเมสซี่ ผลจับชปล.สุดซี้ด!

เปิดโผจับติ้ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ลิเวอร์พูล เจองานไม่ยากมากนัก ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด อ้วกแตกเจอทั้ง เปแอสเช ไลป์ซิก และ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะได้ดวลกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

สรุปผลการจับสลากฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 2020/21 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยจะเล่นตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. ไปจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. นี้

กลุ่ม เอ : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย)

กลุ่ม บี :  เรอัล มาดริด (สเปน), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค (เยอรมนี),

กลุ่ม ซี : เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), โอลิมเปียกอส (กรีซ),โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม ดี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), อตาลันต้า (อิตาลี), มิดทิลแลนด์ (เดนมาร์ก)

กลุ่ม อี : เซบีย่า (สเปน), เชลซี (อังกฤษ), คราสโนดาร์ (รัสเซีย), แรนส์ (ฝรั่งเศส)

กลุ่ม เอฟ : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์ส เบิร์ก (รัสเซีย), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), ลาซิโอ (อิตาลี), คลับ บรูช (เบลเยียม)

กลุ่ม จี : ยูเวนตุส (อิตาลี), บาร์เซโลน่า (สเปน), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน),  เฟเรนช์วารอส (ฮังการี)

กลุ่ม เอช : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี), อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ (ตุรกี)

ไม่แพ้มา20เกม!เปแอสเชกับการเฮต่อเนื่องในเลอคลาสสิก (มีคลิป)

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนนี้จะมีเกมใหญ่ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส นั่นคือเกมที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จะเปิดรัง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เจอกับ โอลิมปิก มาร์กเซย โดยที่มันมีชื่อเล่นว่า "เลอ คลาสสิก"

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่พักหลัง "เปแอสเช" ทุ่มเงินซื้อนักเตะชื่อดังมาร่วมทัพหลายรายทำให้พวกเขาไม่แพ้เกม เลอ คลาสสิก มาตั้งแต่ปี 2012 หรือถ้านับเป็นจำนวนนัดก็อยู่ที่ 20 เกมด้วยกัน และคลิปนี้คือตัวอย่างของผลงาน ปารีสฯ ในเกมกับ มาร์กเซย ในช่วงนั้น

สมัยฟอร์มฮอตที่สุด!ย้อนชมลีลานางาโตโมะกับอินเตอร์ (มีคลิป)

วันที่ 12 กันยายนของทุกปีเป็นวันเกิดของ ยูโตะ นางาโตโมะ ฟูลแบ็กชาวญี่ปุ่นที่เคยสร้างชื่อจากการที่เคยเป็นกำลังหลักของ อินเตอร์ มิลาน ยอดทีมของศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อยู่ช่วงหนึ่ง โดยล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมในเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส
 
ทั้งนี้ ปัจจุบัน นางาโตโมะ มีอายุ 34 ปีเข้าไปแล้ว ซึ่งเนื่องในโอกาสพิเศษนี้เราจะขอนำเสนอลีลาของเจ้าตัวสมัยที่อยู่กับ อินเตอร์ มาให้ได้ชมกัน

ฉาว!เนย์มาร์1ใน5แข้งใบแดงเกมปารีสปะทะมาร์กเซย (มีคลิป)

เนย์มาร์ หัวหอกแซมบ้าของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อ้าวโดนเหยียดผิวขณะกำลังเดินออกจากสนามหลังโดนใบแดงในแมตช์สุดฉาวที่ "เปแอสเช" เปิดบ้านแพ้ โอลิมปิก มาร์กเซย 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้มีใบแดงถึง 5 ใบเป็นฝั่งเจ้าบ้าน 3 ใบและทีมเยือน 2 ใบ

เนย์มาร์ กองหน้าค่าตัวแพงที่สุดในโลกชาวบราซิเลียน ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นหนึ่งในห้านักเตะที่โดนใบแดงไล่ออกในเกมสุดฉาวที่ "เปแอสเช" แพ้ "โอแอม" โอลิมปิก มาร์กเซย 0-1 ศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา

แมตช์นี้ มาร์กเซย ได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 31  จากฟรีคิกกว่า 40 หลา ดิมิทรี ปาเยต์ เปิดข้ามแนวรับเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฟลอริยอง โตแว็ง กัปตันทีมของโอแอมสอดเข้ามายิงด้วยซ้ายเสาแรกเข้าไป โดยผู้ตัดสินเช็กสัญญาณจาก "วีเออาร์" เกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าเป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนยืนยันให้ประตูแก่ทีมเยือน

หลังจากนั้นเกมก็ออกแนวเข้มข้นและมีการกระทบกระทั่งกันตลอด จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ฉาวในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเปิดฉากตะลุมบอนกันอย่างไม่เกรงใจ จนนำไปสู่การโดนใบเหลืองใบแดงปลิวว่อนเต็มสนาม

เนย์มาร์ ซึ่งโดนแดงโดยตรง หลังถูก วีเออาร์ จับได้ว่าชกที่ด้านหลักศีรษะของ อัลบาโร่ กอนซาเลซ ผู้เล่น มาร์กเซย เดินออกจากสนามพปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ พร้อมเขาบอกกับผู้ตัดสินที่ 4 ว่าตนตกเป็นเป้าการเหยียดสีผิว ขณะที่อันเดร วิลลาช-โบอาช เทรนเนอร์ไฟแรงชาวโปรตุกีส เผยว่าตนไม่ขอยืนยันเกี่ยวกับสิ่งที่ สตาร์ลูกหนังเลือดแซมบ้า กล่าวอ้าง "การเหยียดผิวไม่เป็นที่ยอมรับในวงการฟุตบอล"

ขณะที่ ฟลอริยอง โตแว็ง ปีกกัปตันทีมมาร์กเซย ไม่พอใจอย่างมากกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในแมตช์นี้ "มีเด็กๆ เยอะมากที่ชมเกมในคืนนี้ เราทุกคนต้องเป็นตัวอย่าง" ด้าน เลโอนาร์โด้ ผู้อำนวยการกีฬา แซงต์-แชร์กแมง ออกโรงตำหนิผู้ตัดสินในเกมนี้ว่า "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแมตช์แบบนี้ถึงใช้ผู้ตัดสินคนนี้ (เฌโรม บรีซาร์) เขาไม่มีประสบการณ์ แค่เคยตัดสินเกมยูโรปา ลีก แมตช์เดียว"

ไม่ขอโทษ!เนย์มาร์ลั่นอยากชกหน้าแข้งเหยียดผิว

เนย์มาร์ ดาวเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่คิดที่จะขอโทษกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น โดยบอกว่าอยากอัดหน้า อัลบาโร่ กอนซาเลซ ด้วยซ้ำ พร้อมยืนกรานว่าโดนแข้ง มาร์กเซย เหยียดผิวจริงๆ

เนย์มาร์ กองหน้าคนดังของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กล่าวว่าที่จริงตนอยากชกหน้า อัลบาโร่ กอนซาเลซ ปราการหลัง โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยซ้ำ หลังจากที่ เนย์มาร์ กล่าวหาว่าอีกฝ่ายเหยียดผิวตนระหว่างเกม ลีก เอิง ฝรั่งเศส นัด เลอ คลาสสิก ที่ทัพ "เปแอสเช" แพ้ "โอแอ็ม" 0-1 คารัง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา

นัดดังกล่าวได้รับการจับตามองจากหลายฝ่ายเพราะมันถือเป็นเกมใหญ่ของลีกแดนน้ำหอม แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของเกมนี้คือเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง โดยที่มีนักเตะโดนไล่ออกจากสนามถึง 5 คน แบ่งเป็น 2 คนของ มาร์กเซย และของ ปารีสฯ 3 ราย

สำหรับ เนย์มาร์ นั้น เป็นหนึ่งในนักเตะของเจ้าถิ่นที่โดนไล่ออก โดยตอนแรกเขาไปตบด้านหลังศีรษะ อัลบาเรซ ที่ตอนนั้นกำลังมีปากเสียงกับ เลอันโดร ปาเรเดส เพื่อนร่วมทีมของ เนย์มาร์ จนทำให้แข้งชาวสแปนิชโมโหสุดๆ และหันมาพูดบางอย่างกับอดีตแข้ง บาร์เซโลน่า ด้วยความเดือดดาล ซึ่งดาวเตะทีมชาติบราซิลก็ตวาดกลับไปเช่นกัน

ที่จริงตอนแรกกรรมการไม่เห็นชอตที่ เนย์มาร์ ตบหัวอีกฝ่าย แต่พอมาเช็กกับกล้องข้างสนามและทีมงานวีเออาร์แล้วนั้นเชิ้ตดำก็ชักใบแดงไล่ เนย์มาร์ ทันที ซึ่งในตอนที่เดินออกจากสนาม เนย์มาร์ ก็ไปบอกกับหนึ่งในทีมงานผู้ตัดสินว่าเขาโดน กอนซาเลซ เหยียดผิวใส่

ทั้งนี้ หลังจากจบเกมไปแล้วนั้น เนย์มาร์ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขอโทษอีกฝ่าย โดยกล่าวบน ทวิตเตอร์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดังว่า "สิ่งเดียวที่ทำให้ผมเสียใจคือการไม่ได้ชกหน้าไอ้เวรตะไลนั่น"

นอกจากนี้ เนย์มาร์ ยังโพสต์เพิ่มด้วยว่าเขาโดน อัลบาเรซ เหยียดผิวจริงๆ "วีเออาร์ จับจังหวะที่ผมแสดง -ความก้าวร้าว- ได้อย่างง่ายดาย เอาล่ะ ตอนนี้ผมก็อยากจะเห็นภาพที่ไอัคนเหยียดผิวเรียกผมว่า -โมโน ฮิโต้ เดอ ปูต้า" (ภาษาสเปน แปลว่าไอ้ลิงจ๋อหน้าตัวเมีย) เหมือนกัน ผมอยากเห็นชอตนั้น!"

ขณะเดียวกัน ผู้บรรยายเกมการแข่งขันของ เทเลฟุต สื่อชื่อดังของฝรั่งเศสก็บอกเช่นกันว่า กอนซาเลซ เหยียดผิว เนย์มาร์ จริงๆ โดยอ้างว่า กอนซาเลซ ใช้คำว่า "ไอ้ลิงจ๋อโสโครก" อย่างไรก็ตาม กอนซาเลซ โพสต์ทาง ทวิตเตอร์ ว่าไม่ได้เหยียดผิวอีกฝ่ายเลย โดยบอกว่า "มันไม่มีที่ว่างให้กับการเหยียผิว ผมมีอาชีพการค้าแข้งที่ใสสะอาดทุกวันร่วมกับเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนๆ หลายคน บางครั้งคุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะแพ้ และยอมรับมันในสนาม วันนี้เป็นการได้ 3 แต้มที่ยอดเยี่ยม