โชต้าโขกชัย-ฟีร์มีโน่ยิงเสียที! ลิเวอร์พูลหืดแซงเชฟยู แต้มทาบจ่าฝูงทอฟฟี่

"หงส์แดง" เป่าปากเหนื่อยไม่น้อยหลังเป็นฝ่ายตามหลังให้ "ดาบคู่" หลัง ฟาบินโญ่ ไปทำเสียจุดโทษ ก่อนที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะซัดไล่ตีเสมอ และครึ่งหลังมาได้ ดีโอโก้ โชต้า โขกประตูชัยพา ลิเวอร์พูล แซงเอาชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญมีเพิ่มเป็น 13 คะแนนเท่าจ่าฝูง เอฟเวอร์ตัน ที่แข่งน้อยกว่าและลูกได้เสียดีกว่า

สนาม : แอนฟิลด์

    เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ไม่ชนะในเกมลีกมา 2 นัดติดเปิดรังรับมือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งมีแต้มแรกจากการเสมอกับ ฟูแล่ม 1-1

    เจอร์เก้น คล็อปป์ ชวดใช้งาน เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่บาดเจ็บยาวทำให้ เซ็นเตอร์แบ็กวันนี้เป็น ฟาบินโญ่ จับคู่กับ โจ โกเมซ ขณะที่แดนกลางไร้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่บาดเจ็บทำให้ให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ปั้นเกมสนับสนุนแนวรุกที่ใช้ ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ ปั้นเกมให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนเป็นหน้าเป้า

    ส่วนทางด้าน "ดาบคู่" เกมนี้ส่ง รีอาน บรูว์สเตอร์ ได้ลงสนามพบกับต้นสังกัดเก่า โดยล่าตาข่ายร่วมกับ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่

    เปิดฉากมาแค่ 3 นาทีแรก "หงส์แดง" เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว หลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เรียกฟรีคิกได้ ก่อนที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะลักไก่ยิงจากครึ่งสนาม บอลกำลังจะมุดใต้คานอยู่แล้วแต่ อารอน แรมส์เดล ยังถอยหลังปัดข้ามคานออกไปหวุดหวิด

    แต่แล้ว นาที 12 กลายเป็นเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล มาเสียลูกที่จุดโทษ หลัง ฟาบินโญ่ ไปเสียบใส่เท้า โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ บนเส้น 18 หลาผู้ตัดสินเช็กจาก VAR ก่อนจะชี้เป็นจุดโทษเนื่องจังหวะเข้าเสียบของฟาบินโญ่บนเส้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเขตโทษ และเป็น ซานเดอร์ เบิร์ก ที่ยิงเข้าไปไม่พลาดให้ เชฟฯยูไนเต็ด บุกมานำ "หงส์แดง" 1-0

    นาที 17 จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ได้โอกาสซัดนอกกรอบบ้างแต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกหลังไปไกล

    อีก 3 นาทีถัดมา "ดาบคู่" ได้เสียวอีกหลัง เอธาน อัมปาดู ครอสบอลไปหน้ากรอบถึง โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ ซัดมุมแคบถากเสาไกลออกไป

    แนวรับหงส์แดงระส่ำหนัก นาที 24 หวิดเสียเม็ดที่สองให้ทีมเยือน เมื่อ จอร์จ บัลด็อค ครอสจากขวาไปหน้ากรอบให้ เบน ออสบอร์น ซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟของ อลีสซง

    นาที 35 หงส์แดงมาได้ลุ้นบ้าง เทรนท์ เปิดคอนเนอร์จากด้านขวาเข้ามา แนวรับดาบคู่สกัดไปเข้าทาง ฟาบินโญ่ เติมเข้ามาหวดตูมเดียวเหินโด่งข้ามคานไป

    นาที 41 ลิเวอร์พูล มาทวงประตูตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ครอสจากด้านขวาข้ามหัวเซ็นเตอร์แบ็กดาบคู่มาให้ ซาดิโอ มาเน่ ขึ้นโขกไปติดเซฟ อารอน แรมส์เดล แต่บอลยังมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซ้ำจ่อๆไม่ถึง 5 หลาเข้าไปอย่างง่ายดาย เป็นประตูแรกของดาวยิงทีมชาติบราซิลในซีซั่นนี้

    ถัดมาอีกนาทีเดียว "หงส์แดง" เกือบได้ลุ้นแซงขึ้นนำ หลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทงบอลจากกลางทะลุถึง ซาลาห์ สปีดควบบอลเข้าไปยิงติดมือ อารอน แรมส์เดล ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

    จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชฟฯยูไนเต็ด 1-1

    ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 48 "ดาบคู่" ได้โอกาสลุ้นขึ้นนำหลัง ซานเดอร์ เบิร์ก โขกเช็ดมาให้ จอร์จ บัลด็อค วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปแฉลบ โจ โกเมซ ออกหลัง

    นาที 53 คริส ไวล์เดอร์ นายใหญ่เชฟฯยูฯเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง โอลิเวอร์ เบิร์ก ลงไปเล่นแทน รีอาน บรูว์สเตอร์ ที่วันนี้เล่นไม่ออก

    นาที 62 เทรนท์ ตักบอลสุดสวยเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับบอลลงด้วยซ้ายอย่างสุดสวยก่อนจะดีดด้วยซ้ายอีกทีเข้าประตูไป แต่ทว่า VAR ให้สัญญาณว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของดาวยิงชาวอียิปต์ก่อน

    กระนั้น นาที 64 ไม่กี่อึดใจต่อมา ซาดิโอ มาเน่ เปิดบอลอย่างแม่นยำไปเสาไกลให้ ดีโอโก้ โชต้า เทกตัวขึ้นโขกบอลเบียดเสาเข้าไป ให้ ลิเวอร์พูล แซงขึ้นนำดาบคู่ 2-1

    นาที 82 เจ้าบ้านชวดได้ประตูที่สามหลัง ไวนัลดุม จ่ายทะลุให้ ซาลาห์ พลิกเข้าไปซัดบอลชนเสา ก่อนจะกระดอนมาเข้ามือ อารอน แรมส์เดล อย่างน่าเสียดาย

    จบเกม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ เชฟฯยูไนเต็ด หวุดหวิด 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปนั่งรองจ่าฝูงหลังมี 10 คะแนนเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ทว่า "ทอฟฟี่" ที่แข่งน้อยกว่ามีลูกได้เสียเหนือกว่าทำให้รั้งจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ "ดาบคู่" แพ้เป็นเกมที่ 5 มีแต้มเดียวรั้งรองบ๊วยของลีก

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ – โมฮาเหม็ด ซาลาห์

        ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

        เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, เบน ออสบอร์น, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์

        ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

        ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

ซัมเมอร์หน้า มีลุ้นย้ายหรือไม่?เปิดเงื่อนไขฉีกสัญญาฮาแลนด์

หลังจากที่ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ดาวยิง ดอร์ทมุนด์ ตกเป็นข่าวการย้ายทีมอยู่เรื่อยๆ ล่าสุด ฟาบริซิโอ โรมาโน่ ก็แทบจะดับฝันทีมที่อยากได้เขาในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า ด้วยการบอกว่าถึงแม้ ฮาแลนด์ จะมีค่าฉีกสัญญา 75 ล้านยูโร แต่มันจะมีผลในช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 และ "เสือเหลือง" ก็ไม่คิดที่จะขายเขาด้วยค่าตัวจำนวนนั้นภายในปีหน้า

ฟาบริซิโอ โรมาโน่ นักข่าวชาวอิตาเลียนที่มีความน่าเชื่อถือสูงเปิดเผยว่าเงื่อนไขค่าฉีกสัญญาของ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ กองหน้าคนเก่งของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรชั้นนำของศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน นั้น จะมีผลในช่วงซัมเมอร์ปี 2022

นับตั้งแต่ที่ย้ายมาจาก เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในช่วงกลางฤดูกาลก่อน ฮาแลนด์ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยเขาทำไปแล้ว 23 ประตูจากการลงเล่น 26 นัดในทุกรายการ ส่วนถ้านับเฉพาะฤดูกาลนี้เจ้าตัวก็กดไปแล้ว 7 ลูกจากการลงเล่นในทุกรายการ 8 เกม

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงชาวนอร์เวย์ก็ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมอย่างหนักตามไปด้วย โดยมีข่าวว่า เรอัล มาดริด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจับตาดูสถานการณ์ของเจ้าตัวอย่างใกล้ชิด และก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่าค่าฉีกสัญญาของเขาอยู่ที่ 75 ล้านยูโร (ประมาณ 2,775 ล้านบาท) ซึ่งถึงแม้จะเป็นตัวเลขที่สูงแต่มันก็ดูคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลงานการทำประตูของเขา

กระทั่งล่าสุด โรมาโน่ ก็แฉว่าค่าฉีกสัญญาของ ฮาแลนด์ อยู่ที่ 75 ล้านยูโรจริง แต่มันจะยังไม่มีผลจนกว่าจะถึงช่วงซัมเมอร์ ปี 2022 และตอนนี้ ดอร์ทมุนด์ ก็กำลังประทับใจกับผลงานของแข้งวัย 20 ปีมากๆ จนไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยเขาด้วยเงินจำนวนนั้นในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าแน่นอน

แมนซิตี้รุกเต็มสูบ! “อเกวโร่-สเตอร์ลิง” ผนึกยิงถิ่นเวสต์แฮมที่ฟอร์มกำลังแจ่ม

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกโดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กับ ราฮีม สเตอร์ลิง สองดาวยิงตัวเก่งลงผนึกปิดสกอร์เกมบุกถิ่น "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ผลงานกำลังดีวันดีคืนไม่แพ้มา 2 นัดติดแล้ว ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 18.30 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด   –   แมนฯ ซิตี้
ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 18.30 น.)

สนาม : ลอนดอน สเตเดี้ยม

 
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด :

    เดวิด มอยส์ กุนซือเวสต์แฮม พาทีมเสมอสเปอร์ส แบบเหลือเชื่อ 3-3 ทั้งที่โดนนำไปก่อนถึง 3-0 ทำให้ไม่แพ้มา 2 เกมแล้ว

    ความพร้อมเกมนี้ "น้ามอยส์" ต้องรอทดสอบความฟิตของ มิคาอิล อันโตนิโอ ที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และ เซบาสเตียง อาลแลร์ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์

     นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะยึดทีมจากเกมล่าสุดเป็นหลักต่อไป เพราะทำผลงานกันได้ดีแล้วนั่นเอง

    นำโดยแกนหลักขาประจำอย่าง ฟาเบียน บัลบูเอน่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์ และ ปาโบล ฟอร์นัลส์

แมนฯ ซิตี้ :

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ พาทีมชนะอาร์เซน่อล 1-0 ในเกมลีกล่าสุด ก่อนถล่มปอร์โต้ 3-1 ในเกมชปล. เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ไม่แพ้มา 4 เกมแล้ว

    ความพร้อมเกมนี้ "เป๊ป" จะไม่มีทั้ง แฟร์นันดินโญ่ ที่เจ็บเพิ่มเป็นรายล่าสุด รวมไปถึง เควิน เดอ บรอยน์, เบนฌาแม็ง เมนดี้, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ กาเบรียล เชซุส ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้ว

    ส่วน นาธาน อาเก้ ที่เจ็บโคนขาหนีบ ต้องรอทดสอบความฟิต ขณะที่แกนหลักรายอื่นๆ อย่าง รูเบน ดิอาซ, โรดรี้ เอร์นานเดซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" และ ราฮีม สเตอร์ลิง ยังพร้อมบู๊เหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (5-4-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ – วลาดิเมียร์ คูฟาล, ฟาเบียน บัลบูเอน่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสส์เวลล์, อาร์กตูร์ มาซูอากู – จาร์ร็อด โบเว่น, โทมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์, ปาโบล ฟอร์นัลส์ – มิคาอิล อันโตนิโอ
    ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาซ, เอริค การ์เซีย, ชูเอา กานเซโล่ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน – ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", ราฮีม สเตอร์ลิง
    ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า  
 
    ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

แนวรับแกร่ง,คาวานี่เกือบยิง!ตัดเกรดแข้งแมนยูเกมเจ๊าจืดเชลซี

เกมบิ๊กแมตช์ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เมื่อคืนวันเสาร์ จบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 โดยที่ "ปีศาจแดง" มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่า แต่จบกันไม่คม แถมต้องซูฮกความเหนียวหนึบของนายประตูทีมคู่แข่งด้วย ส่วนแนวรับถือว่าต้องชื่นชม เพราะทำให้ "สิงห์บลูส์" แทบไม่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูเลย และนี่คือผลสอบของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ละคนในแมตช์นี้
11 ผู้เล่นตัวจริง

 – ดาบิด เด เคอา : 6
  เจองานไม่หนัก ตลอดทั้งเกมได้เซฟเบาๆ หนเดียว 


 

 – อารอน วาน-บิสซาก้า : 7
  เกมรุกอาจยังไม่มีทีเด็ด แต่เกมรับยังคงไว้ใจได้ ซึ่งถือเป็นการสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์

 – วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ : 7.5
  เป็นเกมที่เล่นได้แข็งแกร่ง รับมือได้ทุกรูปแบบ จัดการกับ ติโม แวร์เนอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

 – แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (C) : 7
  คุมแนวรับได้ดี เคลียร์บอลทิ้งได้ตลอด และชนะการดวลลูกกลางอากาศได้แบบ 100% (5/5)

 – ลุค ชอว์ : 6
  อาจจะไร้ข้อผิดพลาด แต่ดูเหมือนเล่นแบบกองหลังสามตัวได้ดีกว่าแบบสี่ตัว แถมมีปัญหาในการรับมือกับ รีส เจมส์ บางจังหวะ


 

 – สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ : 6.5
  ช่วยเกมรับได้ดี ทำให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เล่นด้วยความยากลำบาก แต่เสียเวลากับบอลมากไปหน่อย

 – เฟร็ด : 7
  สู้กับแดนกลาง เชลซี ได้ดี โดยเฉพาะการตัดบอล ซึ่งเจ้าตัวทำได้ 3 ครั้ง ถือว่ามากสุดในทีม "ปีศาจแดง" เท่ากับ แม็คโทมิเนย์ 


 

 – ฆวน มาต้า : 6.5
  เล่นได้โอเคเลย สร้างโอกาสสวยๆ หลายครั้ง แถมมียิงได้ลุ้น 1 หนด้วย แต่โดยรวมได้บอลน้อยไปหน่อย ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงครึ่งหลัง

 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส : 7
  อาจจะดูเงียบๆ แต่สร้างโอกาสให้เพื่อนลุ้นทำประตูถึง 4 หน มากสุดเหนือทุกคนในสนามเกมนี้


 

 – แดเนี่ยล เจมส์ : 5
  เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าผิดหวังสำหรับปีกชาวเวลส์ ไม่แปลกใจที่ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง

 – มาร์คัส แรชฟอร์ด : 7
  ช่วง 10 นาทีสุดท้ายครึ่งแรก มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงเน้นๆ แต่ติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี้ หลังนั้นก็เล่นได้อันตรายเป็นระยะ แต่การตัดสินใจจังหวะสุดท้ายยังไม่ดี

 

สำรองที่ได้ลงเล่น

 – ปอล ป็อกบา (แทน มาต้า น. 58) : 6.5
  ช่วยยกระดับการทำเกมในแดนกลางได้ดี แต่ช่วงท้ายเกมน่าจะทำได้ดีกว่านี้กับการยิงบริเวณกรอบเขตโทษ

 

 – เอดินสัน คาวานี่ (แทน เจมส์ น. 58) : 6
  ใช้เวลาอยู่ในสนามเพียงไม่กี่วินาที ก็ได้ลุ้นทำประตูแบบเสียวๆ ทันที และช่วงท้ายเกมมีได้ลุ้นอีกครั้งด้วย แม้ไร้สกอร์ แต่ก็โชว์ให้เห็นถึงเซนส์บอลของดาวยิงระดับเวิลด์คลาส

 – เมสัน กรีนวู้ด (แทน แม็คโทมิเนย์ น. 83) : –
  ไม่สามารถให้คะแนนได้

เลสเตอร์เช็กฟิต “วาร์ดี้”,อาร์เซน่อลส่ง “ปาร์เตย์” ตัวจริงหนุน “โอบาเมย็อง”โป้ง

"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องลุ้น เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงตัวเก่งฟิตสมบูรณ์ทันลงช่วยทีมล่าตาข่ายเกมเยือนถิ่น "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่คาดว่าจะส่ง โธมัส ปาร์เตย์ ลงตัวจริงป้อน ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ปิดสกอร์ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier HD1 (เวลา : 02.15 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2563
อาร์เซน่อล   –   เลสเตอร์ ซิตี้
ถ่ายทอดสด : True Premier HD1   (เวลา : 02.15 น.)

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

อาร์เซน่อล :

    เจ้าบ้านปืนใหญ่ภายใต้การคุมทัพของ มิเกล อาร์เตต้า ผลงานนัดล่าสุดบุกชนะ ราปิด เวียนนา 2-1 ในศึกยูโรปา ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ และในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน แพ้ แมนฯซิตี้ 0-1

    ความพร้อมในเกมนี้ ต้องรอเช็กความฟิตของ วิลเลี่ยน และ ดานี่ เซบายอส ซึ่งมีอาการบาดเจ็บติดตัวเล็กน้อย แค่คาดว่าจะฟิตทันเกมวันนี้ และได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ส่วน

    ร็อบ โฮลดิ้ง กองหลังที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ ยังต้องนั่งอยู่ข้างสนามต่อไป

    คาดว่า มิเกล อาร์เตต้า จะมาในระบบ 4-3-3 นำโดย กัปตันทีม ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, ดาวิด ลุยซ์, วิลเลี่ยน, ดานี่ เซบายอส และ โธมัส ปาร์เตย์ นักเตะใหม่มีโอกาสได้เล่นตัวจริงเป็นเกมแรกด้วย

เลสเตอร์ ซิตี้ :

    ด้านทีมเยือน เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาทีมแพ้ในลีกมา 2 นัดติดต่อกัน แต่นัดล่าสุดลงเล่นในศึกยูโรปา ลีก เมื่อกลางสัปดาห์เอาชนะ ซอร์ย่า ได้ 3-0

    โดยเกมนี้ทีมจะไม่มี  ริคาร์โด้ เปเรยร่า, คักลาร์ โซยุนชู, แดเนียล อามาร์ตีย์ และ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ในรายของ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าตัวเก่งที่บาดเจ็บที่น่องและพลาดการลงสนามมา 3 นัดหลังสุด นัดนี้ต้องรอเช็กความฟิต แต่คาดว่าจะฟิตและลงช่วยทีมได้

    การจัดทัพ ทีมเยือนน่าจะมาในระบบเก่ง 4-1-4-1 โดยมี เวสลี่ย์ โฟฟาน่า กับ จอนนี่ อีแวนส์ เป็นคู่เซนเตอร์แบ็ก ด้านแบ็กขวา-ซ้ายใช้ทาง ทิโมธี กาสตานเญ่ กับทาง เจมส์ จัสติน แดนกลางมี น็อมปาลิส เมนดี้ เป็นตัวตัดเกม ด้านตัวทำเกมสองคน เป็น ยูริ ตีเลอมันส์ กับทาง เจมส์ แมดดิสัน ส่วนฝั่งริมเส้นขวาซ้าย ใช้งาน อาโยเซ่ เปเรซ กับทาง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ และ กองหน้าตัวเป้า เป็น เจมี่ วาร์ดี้ ที่กลับมาลงเล่นให้กับทีมได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    อาร์เซน่อล (4-3-3) : แบรนด์ เลโน่ – เอ็คตอร์ เบเยริน, ดาวิด ลุยซ์, กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ – ดานี่ เซบายอส, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาคา – นิโกล่าส์ เปเป้, วิลเลี่ยน, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง
    ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

    เลสเตอร์ ซิตี้ (4-1-4-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ทิโมธี กาสตานเญ่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, เจมส์ จัสติน – น็อมปาลิส เมนดี้ – อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลอมันส์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่)
    ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

    ผู้ตัดสิน : เคร็ก เพาสัน

พร้อมแล้ว !! เอดินสัน คาวานี่ ฟิตเต็มถังลุ้นยิง เชลซี แม็กไกวร์ กรีนวู้ด คืนทีม

      เอดินสัน คาวานี่ ศูนย์หน้าป้ายแดง แมนยู ลุ้นประเดิมสนามเกมแรกหลังมีรายชื่ออยู่ในทีมชุดเปิดบ้านรับมือ เชลซี โปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ หลังพลาดเกมกับ เปแอสเช ช่วงกลางสัปดาห์ จากการรายงานของ Metro สื่อชื่อดังต่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563

        แมนยู ที่เพิ่งคืนฟอร์มเก่ง หลังผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาบุกไปเอาชนะ เปแอสเช ได้ถึงถิ่น 2-1 และโปรแกรมบอล พรีเมียร์ลีก เสาร์นี้ทีมปีศาจแดงมีคิวเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกบิ๊กแมตช์กับ เชลซี โดยศูนย์หน้าป้ายแดงอย่าง เอดินสัน คาวานี่ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนาม

        ดาวยิงวัย 33 ปี พลาดการลงเล่นกับทีมเก่าของเขาช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับเกมในสุดสัปดาห์นี้ เอดินสัน คาวานี่ พร้อมแล้วที่จะลงสนามเป็นเกมแรกในสีเสื้อปีศาจแดง เช่นเดียวกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ เมสัน กรีนวู้ด ที่พลาดเกมกับ เปแอสเช มาด้วยเช่นกัน

        "ผมหวังว่าพวกเขาทั้งสามคนจะฟิตสมบูรณ์และพร้อมที่จะเป็นตัวเลือกในเกมกับทีมสิงห์บลูส์สุดสัปดาห์นี้ แน่นอนว่าเรามีการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายเพื่อเตรียมตัวซึ่งพวกเขาทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะได้ลงสนาม เอดินสัน จะต้องฝึกซ้อมตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ให้ครบ เช่นเดียวกับ เมสัน และ แฮร์รี่ ซึ่งมันผ่านไปได้ด้วยดี" โซลชาร์ กล่าว

        ทั้งนี้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ยังคงติดโทษแบนอยู่ ทำให้สตาร์ทีมชาติอุรุกวัยมีลุ้นออกสตาร์ตเป็นตัวจริงกับ เชลซี โดยคาดว่ากุนซือชาวนอร์เวย์จะใช้แผนการเล่นเดียวกับเกมที่บุกชนะทีมแชมป์ลีกเอิง

คาวานี่ต้องมา!ส่อง2แผนเด็ดแมนยูรับมือเชลซี

คาด 2 แผนเด็ดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะใช้รับมือ เชลซี ในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ หลังเพิ่งโชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกไปอัด เปแอสเช ในถ้วยยุโรป
     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังมีลุ้นพา "ปีศาจแดง" เก็บชัยชนะ 3 นัดติดในทุกรายการ หลังจากสองเกมที่ผ่านมาบุกไปถล่ม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ใน พรีเมียร์ลีก และออกไปเฉือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

    แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมนัดต่อไปด้วยการเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ใน พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคมนี้ โดยที่ โซลชา จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อองโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าชาวฝรั่งเศส ที่ยังติดโทษแบน แต่ เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงคนใหม่พร้อมลงสนามแล้ว

    ส่วนนักเตะรายอื่นๆ ที่ยังไม่พร้อมลงสนามคือ เอริกไบยี่ และ เจสซี่ ลินการ์ด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่ และเกมนี้สื่ออังกฤษคาดว่า โซลชา จะใช้ 2 แท็กติกนี้ลงบู๊กับ เชลซี

    1. ระบบ 3-4-1-2

    โซลชา ใช้แผนนี้ได้ผลในเกมบุกไปชนะ เปแอสเช โดยเฉพาะ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมสามารถรับมือกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ได้อยู่หมัด

    ส่วนอีก 2 รายในระบบกองหลัง 3 คนน่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ โดยมี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา

    ส่วนแผงกลาง 4 คนให้ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซ์ เตลลิส ทำหน้าที่วิงแบ็ก ส่วนคู่กลางใช้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ ปอล ป็อกบา

    ด้านแนวรุกให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส คอยทำเกมอยู่หลังคู่กองหน้า คาวานี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

    2. ระบบ 4-2-3-1

    แผนนี้จะกลับมาใช้ระบบกองหลัง 4 คน โดยให้ ตวนเซเบ้ ลงมาเป็นตัวจริงแทน แม็กไกวร์ คู่กับ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ วาน-บิสซาก้า ทำหน้าที่แบ็กขวา และ ลุค ชอว์ ประจำการแบ็กซ้าย

    ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางใช้ เนมานย่า มาติช ประสานงานกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ขณะที่ 3 แนวรุกให้ แดเนียล เจมส์ ยืนฝั่งขวา และ แรชฟอร์ด เล่นทางด้านซ้าย

    ด้าน บรูโน่ ยืนสูงคอยทำเกม อยู่หลัง คาวานี่ ที่จะทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้า

ลิเวอร์พูลเฮ “ติอาโก้” คืนทัพ! “ซาลาห์-มาเน่” นำตะบันเชฟยูส่งบรูว์สเตอร์ลุ้นยิงทีมเก่า

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะได้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่หายเจ็บกลับมาเคลื่อนทัพแดนกลาง ขณะที่แผงแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ พร้อมประสานคมพักตาข่ายเกมรับ "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 24 ต.ค. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563
ลิเวอร์พูล   –   เชฟฯ ยูไนเต็ด
ถ่ายทอดสด : True Premier HD 1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

ลิเวอร์พูล :

    ลิเวอร์พูลบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตัน 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุดก่อนที่จะเฉือนชนะ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก

    ความพร้อมของหงส์แดงในเกมนี้จะไม่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่ารบกวนจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ต้องหยุดสถิติออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมลีกเอาไว้ 94 นัดติดต่อกัน นอกจากนี้ อลีสซง เบ็คเกอร์ ยังคงต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ โดยเป็นที่คาดกันว่า จอมหนึบทีมชาติบราซิล จะกลับมาเฝ้าเสาได้ก่อนสิ้นเดือนนี้

    แต่มีข่าวดีคือ ติอาโก้ อัลกันตาร่า พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมในเกมนี้หลังจากที่สลัดอาการบาดเจ็บจากการปะทะกับ ริชาร์ลิซอน จน ดาวยิงบราซิเลียน โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในเกมลีกนัดก่อน

    ในแผงหลัง ฟาบินโญ่ คงจะได้รับโอกาสลงสนามในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กต่อไป โดยจะจับคู่กับ โจ โกเมซ เช่นเดิมหลัง อดีตแข้ง อาแอส โมนาโก โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับอาแจ็กซ์ถึงแม้ว่า โฌแอล มาติป พร้อมที่จะกลับมาช่วยทีมแล้วก็ตาม

    ส่วนในแดนหน้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน คงจะยึดผู้เล่นชุดเดิมต่อไป ซึ่งก็คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทั้งที่ ฟีร์มีโน่ ถูกตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับสภาพความฟิตของเขา รวมทั้ง ดีโอโก้ โชต้า ที่ได้ลงมาเป็นตัวสำรองจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกลางสัปดาห์ก็ตาม

    ด้าน นาบี เกอิต้า และ คอสตาส ซิมิกาส ก็สลัดอาการบาดเจ็บเตรียมกลับเข้ามาสู่ทีมอีกครั้ง ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยังคงต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน

เชฟฯ ยูไนเต็ด :

    เชฟฯ ยูไนต็ด ยังคงหวานหาชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ไม่เจอหลังไม่ชนะใครมา 6 เกมแล้วรวมทุกรายการ เกมลีกนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอกับฟูแล่ม 1-1

    ทีมเยือนกำลังประสบปัญหาผู้เล่นโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค โอคอนเนลล์ ที่โดนโรคเดี้ยงบริเวณหัวเข่าเล่นงานจนต้องเข้ารับการผ่าตัดและคงจะต้องพักรักษาตัวในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ รวมทั้ง จอห์น เฟล็ค, ลีส์ มูสเซ และ แม็กซ์ ลอว์ ที่ถูกส่งประเดิมสนามในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่อยู่ในสนามได้เพียง 19 นาทีเท่านั้นหลังจากที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและอาจจะไม่สามารถลงสนามได้ในเกมนี้

    ทำให้ คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีม คงจะส่ง อีธาน อัมปาดู ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยที่ เอ็นดา สตีเว่นส์ จะขยับจากตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้ายกลับไปยืนตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย

    ขณะที่ในแนวรุก รีอาน บรูว์สเตอร์ จะได้ลงสนามเป็นตัวจริงเผชิญหน้ากับต้นสังกัดเก่า ซึ่งไวล์เดอร์ก็หวังว่าบรูว์สเตอร์จะงัดฟอร์มเก่งออกมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจ้านายเก่า รู้สึกว่า เขาคิดผิดที่ปล่อยตัวแข้งรายนี้ออกจากทีม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
    ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

    เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : อารอน แรมส์เดล – คริส บาแชม, อีธาน อัมปาดู, จอห์น เอแกน – จอร์จ บัลด็อค, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, ซานเดอร์ เบิร์ก, เอ็นดา สตีเว่นส์ – โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, รีอาน บรูว์สเตอร์
    ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์

    ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน

เครื่องจักรถล่มประตู! เลวานดอฟสกี้จารึกสถิติบุนเดสลีกา

กองหน้าทีมเสือใต้ยังคงทำผลงานได้ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจารึกสถิติใหม่ในลีกสูงสุดเยอรมันขึ้นมาอีกครั้ง

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงของ บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาที่ยิงได้ 10 ประตู จาก 5 นัดแรกของฤดูกาล

กองหน้าชาวโปลิชระเบิดฟอร์มทำแฮททริคช่วยเสือใต้เปิดรังถล่ม ไอน์ทรัคต์ แฟรงค์เฟิร์ต 5-0 ทำให้ยอดรวมสกอร์ในลีกฤดูกาลนี้ของเขาเพิ่มเป็น 10 ประตู จาก 5 เกม กลายเป็นสถิติใหม่ของลีกสูงสุดเยอรมันทันที

ส่วนอีก 2 ประตูในเกมนี้เป็นผลงานของ เลรอย ซาเน และ จามัล มูเซียลา ขณะที่เสือใต้รั้งอันดับ 2 ของตารางร่วมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยมี 12 คะแนน ตามหลัง แอร์เบ ไลป์ซิก จ่าฝูง 1 คะแนน

 

รวยแต่ต้องปิด แข้งขอนแก่นขับเบ๊นซ์แต่ไม่กล้าให้ใครเห็น

อาชีพนักฟุตบอลสำหรับใครหลายคน สามารถทำให้ฐานะลืมตาอ้าปากได้ แต่สำหรับนักเตะรายนี้ มาเล่นฟุตบอลอาชีพไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน เนื่องจากที่บ้านมีฐานะที่ร่ำรวยอยู่แล้ว แต่เขามาเพื่อตามล่าความฝันกับกีฬาที่เขาหลงใหล

    “เบส”ธนพล ศรีทอง ดาวยิงขอนแก่น ยูไนเต็ด เกิดในครอบครัวที่มีฐานะค่อนข้างมั่นคง โดยครอบครัวทำธุรกิจสัมปทานรถบัสประจำทางระหว่างอำเภอเมือง ขอนแก่น ไปยังอ.กระนวน มีรถวิ่งในเส้นทางนี้กว่า 20 คัน ด้วยชีวิตที่ค่อนข้างสุขสบายในวัยเด็ก แต่เจ้าตัวก็ยังมีความฝันอยากจะเล่นฟุตบอลอาชีพ เมื่อทีมขอนแก่น เอฟซี บ้านเกิดเคยขึ้นไปเล่นอยู่ในไทยลีกและเจ้าตัวตามเชียร์ถึงขอบสนาม

    เส้นทางฟุตบอลของ “เบส”ไม่มีอะไรหวือหวา เจ้าตัวเรียนอยู่ร.ร.สาธิตขอนแก่น ตั้งแต่ประถมจนมัธยมปลาย แต่โอกาสเรื่องฟุตบอลค่อนข้างมีน้อย เนื่องจากเด็กในโรงเรียนเล่นฟุตบอลเป็นไม่กี่คน เจ้าตัวต้องดิ้นรนไปคัดฟุตบอลระดับเยาวชนของจังหวัดขอนแก่นจนได้ติดทีมไปเล่นกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

 
    เมื่อขึ้นม.ปลาย “เบส”ธนพล ตัดสินใจไปคัดกับทีมขอนแก่น เอฟซี ด้วยพาหนะรถเบ๊นซ์ของครอบครัว แต่ด้วยความกลัวว่าถ้าหากไปแบบนี้อาจโดนมองว่า เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จึงเอารถเบ๊นซ์ไปจอดห่างไกลจากสนามซ้อมแล้วเดินเข้าไปคัดตัว

 
    “ปีแล้วปีเล่าผมไปคัดก็ไม่เคยติด แต่ผมก็ไม่ลดละพยายาม ใช้เวลาในการคัดถึง 4 ปี มาติดตอนเรียนอยู่ม.ขอนแก่น ปี 3 แล้ว ซึ่งก็ต้องแบ่งเวลาทั้งการเรียนและการเล่น มีอยู่วันหนึ่งผมต้องบินไปเตะกับกระบี่ เอฟซี แต่อีกวันต้องพรีเซ็นต์งานกับอาจารย์ที่ขอนแก่น ก็นั่งเครื่องบินหลังแข่งจบมาลงที่สุวรรณภูมิ แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ก็ขับรถมารับที่สุวรรณภูมิ กลับขอนแก่น(หัวเราะ) ก็ถือว่าเหนื่อยเพราะบอลอาชีพก็อยากเล่น เรียนก็อยากจบ แต่ก็จบมาได้ในที่สุด”

 
    หลังจากเรียนจบก็มุ่งสมาธิเล่นฟุตบอลให้กับขอนแก่น เอฟซี โดยเล่นอยู่ 6 ปี ย้ายไปทีโอที ไม่ทันไรทีมก็ยุบ เลยกลับมาเล่นให้ขอนแก่น มอดินแดง ซึ่งเจ้าตัวระเบิดฟอร์มยิงไป 14 ประตูในไทยลีก 4 จนฟอร์มเตะตาผู้บริหารทีมขอนแก่น ยูไนเต็ด และดึงไปร่วมทีมในที่สุด

 
    ความจริงแล้ว นอกจากการเรียนกับการเล่นฟุตบอล เจ้าตัวยังต้องเลือกเส้นทางเมื่อครอบครัวจะส่งไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา แต่หลังจากไปลองใช้ชีวิตอยู่ 1 ปี เจ้าตัวเลือกที่จะอยู่เมืองไทยเพื่อตามล่าความฝันฟุตบอลอาชีพแทน ส่วนพี่ชายตอนนี้ไปปักหลักเป็นทหารอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

 
    ถึงตอนนี้ “เบส”ธนพล ยิงให้ขอนแก่น ยูไนเต็ด ไป 1 ประตู ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า ตำแหน่งของตนเป็นกองหน้าก็จริง แต่บทบาทไม่ใช่หน้าเป้า เป็นตัวซัพพอร์ตให้กองหน้าต่างชาติมากกว่า อย่างไรก็ดีแม้ตอนนี้อายุจะย่าง 29 ปีแล้ว แต่ความฝันที่อยากเล่นบอลไทยลีก 1 ก็ยังมีอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอโชว์ฟอร์มให้กับขอนแก่น ยูไนเต็ด ให้เต็มที่ และถ้าเล่นได้ดี โอกาสก็จะมาถึงเอง