มีแชมป์ติดมือ!มูรินโญ่ลั่นไม่ได้ล้มเหลวตอนคุมแมนยู

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ สเปอร์ส ระบุ ไม่ได้ล้มเหลวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แม้แต่นิดเดียว พร้อมบอกว่าตนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายคนของ "ปีศาจแดง"

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ กล่าวว่าตนไม่ได้ล้มเหลวเลยในตอนที่คุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนหน้าที่เขาจะต้องเจอกับทีมเก่าในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคมนี้

มูรินโญ่ ได้ทั้งแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์, อีเอฟแอล คัพ (คาราบาว คัพ ในปัจจุบัน) และแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่เข้าไปคุมทีม หรือก็คือในฤดูกาล 2016-17 ขณะที่ซีซั่นต่อมาเขาพาทีมจบเป็นอันดับ 2 ในลีกพร้อมกับเป็นรองแชมป์ เอฟเอ คัพ ก่อนที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่งหลังจากฤดูกาล 2018-19 เตะไปได้พักหนึ่ง ซึ่งมันก็ทำให้บางคนมองว่าเขาล้มเหลวกับ "ปีศาจแดง" อย่างสิ้นเชิง

กุนซือชาวโปรตุกีสเผยว่า "ผมคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะทำผลงานได้แบบนั้น ผมไม่เคยมีปัญหากับสโมสรเลย บรรดาแฟนบอลรู้ดีว่าผมทุ่มเทให้ทีมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ผมได้แชมป์กับทีมในระดับที่ดีที่สุดเท่าที่พอจะทำได้ แชมป์ที่ผมไม่ได้ร่วมกับทีมเป็นแชมป์รายการที่ผมไม่มีทางคว้ามาครองได้อยู่แล้ว ผมทุ่มเทสุดชีวิตให้กับสโมสร และทำงานแบบมืออาชีพอย่างเต็มที่เหมือนที่ผมทำอยู่เสมอ"

"ภายในสโมสรผมมีเพื่อนหลายคน พวกเขาคือคนที่ผมจะเป็นเพื่อนไปด้วยตลอดชีวิต คนที่ผมได้พบเจอในสโมสรต่างก็เป็นคนที่วิเศษ ผมมีแต่ความรู้สึกดีๆ ให้กับพวกเขา แต่ผมก็ต้องลืมความรู้สึกนั้นไปก่อนเป็นเวลา 90 นาที เพราะใน 90 นาทีที่ว่านั้นพวกเขาอยากชนะ และผมก็อยากชนะเหมือนกัน ฟุตบอลมันก็เป็นแบบนั้นแหละ"

มันเดย์ไนท์เดือด!ลิเวอร์พูลเช็คฟิต2แข้งสำคัญ รับมืออาร์เซน่อลที่ส่งโอบาฯป่วน

คู่เดือดระดับ 5 ดาว…"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าเตรียมเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เกมนี้อาจเป็นการดวลความคมปิดสกอร์และชี้ชะตาผลการแข่งขันของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ วันจันทร์ที่ 28 ก.ย. ศกนี้  ถ่ายทอดสด : True Premier HD1 (เวลา : 02.00 น.)

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563
ลิเวอร์พูล   –   อาร์เซน่อล
ถ่ายทอดสด
 : True Premier HD1 (เวลา : 02.00 น.)

สนาม : แอนฟิลด์

    จอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล พาทีมลงสนามล่าสุดบุกไปถล่ม ลินคอล์น ซิตี้ 7-2 ในศึก คาราบาว คัพ ทำให้พวกเขาชนะรวดมา 4 เกมติด ในการลงเล่นทุกรายการ

    ความพร้อมของทีมในเกมนี้ คล็อปป์ จะอดใช้งาน โฌแอล มาติป ปราการหลัง, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มิดฟิลด์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ช่วนเดียวกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมตัวเก่งที่ยังไม่ฟิตพร้อมลงช่วยทีม

     ข่าวล่าสุด อลีสซง เบ็คเกอร์ กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ต้องรองทดสอบความฟิตอีกครั้งว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่ แต่หากพร้อมนั้นหมายความว่าเกมนี้ ติอาโก้ มีสิทธิ์ประเดิมตัวจริงนัดแรกให้กับหงส์แดง ลงคุมแดนกลางพร้อมกับ ฟาบินโญ่ แข้งบราซิเลียน ขณะที่ อลีสซง ก็มี อาเดรียน คอยสอดแทรกอยู่แล้ว

    ส่วนในรายของ โจ โกเมซ ที่พลาดลงเล่นในเกมพบเชลซี เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ได้กลับมาร่วมซ้อมกับทีมและคาดว่าน่าจะได้ลงประจำการแดนหลังคู่ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ในเกมนี้

    แนวรุกยังคงใช้สามประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ลงล่าตาข่ายตามเดิม

    มิเกล อาร์เตต้า เทรนเนอร์ของอาร์เซน่อล พาทีมลงเล่นนัดล่าสุดบุกไปเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ถึงถิ่นคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ลิ่วเข้ารอบต่อไปในศึกคาราบาว คัพ โดยชัยชนะเกมนี้ทำให้พวกเขาชนะรวด 7 เกมในการลงเล่นทุกรายการ

    ความพร้อมในเกมนี้ อาร์เตต้า มีปัญหาในการจัดทัพพอสมควร แน่ๆ จะไร้เงา 5 แข้งที่มีอาการบาดเจ็บ คาลั่ม แชมเบอร์ส (เข่า), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เข่า), สโคดราน มุสตาฟี่ (แฮมสตริง), ปาโบล มารี (ข้อเท้า) และ เอมิล สมิธ-โรว์ (ไหล่)

    แต่ข่าวดีคือ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายชาวสกอตต์ หายจากอาการบาดเจ็บพร้อมลงมาช่วยทีมในเกมนี้

เกมนี้ อาร์เตต้า จะกลับมาใช่ผู้เล่นชุดใหญ่หลังจากที่บางส่วนได้พักไปในเกม ลีก คัพเมื่อกลางสัปดาห์ นำทีมส่องประตูโดย วิลเลี่ยน, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กัปตันทีมคนเก่ง

 

รายชื่อนักเตะที่คาด

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ (อาเดรียน) -เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน-ติอาโก้ อัลกันตาร่า (นาบี เกอิต้า), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม-โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่
     เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

    อาร์เซน่อล (3-4-3) : แบร์นด์ เลโน่ – กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์, ดาวิด ลุยซ์-เอคตอร์ เบเยริน, ดานี่ เซบายอส, กรานิต ชาคา, บูกาโย่ ซาก้า-วิลเลี่ยน, อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง
     เทรนเนอร์ : มิเกล อาร์เตต้า

    ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน


ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน

29/08/20    คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อาร์เซน่อล 1 – 1 ลิเวอร์พูล 
16/07/20    พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 2 – 1 ลิเวอร์พูล 
31/10/19    ลีก คัพ ลิเวอร์พูล  5 – 5 อาร์เซน่อล
24/08/19    พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3 – 1 อาร์เซน่อล
30/12/18    พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 5 – 1 อาร์เซน่อล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล

25/09/20 ชนะ ลินคอล์น 7-2 (เยือน) ลีก คัพ 
20/09/20 ชนะ เชลซี 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
12/09/20 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
05/09/20 ชนะ แบล็คพูล 7-2 (เหย้า) กระชับมิตร
29/08/20 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (สนามกลาง) คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 

อาร์เซน่อล 
24/09/20 ชนะ เลสเตอร์ 2-0 (เยือน) ลีก คัพ 
20/09/20 ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
12/09/20 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 
29/08/20 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (สนามกลาง) คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 
26/08/20 ชนะ เอ็มเค ดอนส์ 4-1 (เยือน) กระชับมิตร

 

ปรับยกชุด! ลิเวอร์พูลบู๊แน่ “มินามิโนะ” ตัวจริงยิงอาร์เซน่อลคาราบาว คัพ

เพิ่งเจอกันในเกมลีกวันจันทร์และมาดวลกันต่อในฟุตบอลถ้วยโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมเปลี่ยนทีมแบบยกแผงเหมือนรอบที่ผ่านมาแดนหน้านำโดย ทาคูมิ มินามิโนะ ส่วนทาง "ปืนใหญ่" ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ปรับทัพเช่นกันวาง นิโกล่าส์ เปเป้ ลงเป็นตัวทีเด็ด ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 4 คืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.

ปรีวิวฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบ 4
วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม 2563
ลิเวอร์พูล (2, พรีเมียร์ลีก) – อาร์เซน่อล (5, พรีเมียร์ลีก)
(เวลา : 01.45 น.)

สนาม : แอนฟิลด์ 

    คู่นี้เพิ่งเจอกันมาในพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันจันทร์ โดย "หงส์แดง" เข่นเอาชนะไป 3-1 แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เตรียมเปลี่ยนทีมแบบยกแผงในบอลถ้วยเหมือนรอบที่ผ่านๆ มา นำโดย อาเดรียน นายประตูมือสองเฝ้าเสาแทน อลีสซง เบ็คเกอร์ 

แนวรับมีกองหลังดาวรุ่ง รีส วิลเลี่ยมส์ เช่นเดียวกับ เคอร์ติส โจนส์ ในแดนกลาง แนวรุกที่มี ทาคูมิ มินามิโนะ, ดีโอโก้ โชต้า หัวหอกใหม่ที่ยิงอาร์เซน่อลมาแล้วเมื่อวันจันทร์ แต่ยังคงไม่มี ติอาโก้ อัลกันตาร่า มิดฟิลด์ตัวใหม่ที่ติดโควิด-19 ต้องกักตัวถึงกลางเดือน ต.ค. หรือหลังสัปดาห์ทีมชาติทีเดียว 

    รวมถึง คอสตาส ซิมิคาส แบ็กซ้ายตัวใหม่ ที่ เปปิน ลินเดอร์ส มือขวาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมายันว่าฟูลแบ็กทีมชาติกรีซ มีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขา และยังไม่พร้อมในเกมนี้

    ฟาก "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า เตรียมปรับทัพเช่นกัน โดยให้ ดานี่ เซบายอส, นิโกล่าส์ เปเป้, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ บูคาโย่ ซาก้า ลงเป็นตัวจริงพร้อม เซอัด โคลาซินัช และ วิลเลี่ยน ซาลิบา กองหลังตัวใหม่ ด่านสุดท้ายเปลี่ยนเป็น อเล็กซ์ รูนาร์สสัน นายทวารคนใหม่ชาวไอซ์แลนด์ จะได้ประเดิมสนามหลังย้ายจาก ดิฌง มาแทน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ที่้โยกไปแอสตัน วิลล่า แล้ว

    สองทีมนี้เคยพบกันหนล่าสุดในรอบ 16 ทีมของรายการนี้ เมื่อเดือน ต.ค. 2019 ซึ่งเสมอกันมโหฬาร 5-5 ที่แอนฟิลด์ ก่อนลิเวอร์พูล แม่นโทษกว่าและเข้ารอบไปด้วยสกอร์ 5-4

รายชื่อนักเตะที่คาด

    ลิเวอร์พูล : อาเดรียน – เนโก้ วิลเลี่ยมส์, รีส วิลเลี่ยมส์, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ – นาบี เกอิต้า, เคอร์ติส โจนส์, เซอร์ดาน ชากิรี่ – ดีโอโก้ โชต้า, ทาคูมิ มินามิโนะ, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

    อาร์เซน่อล : อเล็กซ์ รูนาร์สสัน, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ร็อบ โฮลดิ้ง, เซอัด โคลาซินัช – เซดริก โซอาเรส, ดานี่ เซบายอส, โจ วิลล็อค, บูคาโย่ ซาก้า, นิโกล่าส์ เปเป้ – เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, รีสส์ เนลสัน

เทรนเนอร์ : มิเกล อาร์เตต้า

ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

วัน/เดือน/ปี    รายการ    ผลการแข่งขัน
20/09/20     พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3 – 1 อาร์เซน่อล 
29/08/20    คอมมิวนิตี้ ชิลด์ อาร์เซน่อล 1 – 1 ลิเวอร์พูล 
16/07/20    พรีเมียร์ลีก อาร์เซน่อล 2 – 1 ลิเวอร์พูล 
31/10/19    ลีก คัพ ลิเวอร์พูล  5 – 5 อาร์เซน่อล
24/08/19    พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3 – 1 อาร์เซน่อล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

ลิเวอร์พูล

28/09/20 ชนะ อาร์เซน่อล 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
25/09/20 ชนะ ลินคอล์น 7-2 (เยือน) ลีก คัพ 
20/09/20 ชนะ เชลซี 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
12/09/20 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
05/09/20 ชนะ แบล็คพูล 7-2 (เหย้า) กระชับมิตร

อาร์เซน่อล 

28/09/20 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
24/09/20 ชนะ เลสเตอร์ 2-0 (เยือน) ลีก คัพ 
20/09/20 ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
12/09/20 ชนะ ฟูแล่ม 3-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก 
29/08/20 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (สนามกลาง) คอมมิวนิตี้ ชิลด์
(ชนะจุดโทษ 5-4) 

 

ประเดิมโชต้า! “โจนส์-มินามิโนะ” เบิ้ลลิเวอร์พูลยำลินคอล์นลิ่วชนปืนใหญ่

เหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" หน้าบานเต็มที่หลังขุนพลทัพสำรอง "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มร้อนแรงบุกถล่ม ลินคอล์น ซิตี้ 7-2 จากผลงานสุดฮอตของ "โจนส์-มินามิโนะ" เหมาคนละ 2 ประตูแถม ดีโอโก้ โชต้า ลงประเดิมสนามพาทีมผ่านเข้าไปฟัด อาร์เซน่อล ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป ในศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบ 3 คืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สนาม : แอลเอ็นอีอาร์ สเตเดี้ยม

    ”ดิ อิมพ์ส” ลินคอล์น ซิตี้ รองจ่าฝูง ลีก วัน ของกุนซือ ไมเคิ่ล แอ็พเพิลตัน ฟอร์มร้อนแรงชนะมา 5 เกมติดรวมทุกรายการส่วนถ้วยนี้ผ่านเข้ารอบมาด้วยการบุกถล่ม แบร็ดฟอร์ด ซิตี้ 5-0

    ทางด้าน "หงส์แดง" นายใหญ่ เจอร์เกน คล็อปป์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยชนะมา 3 ติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยหลังจากที่พลาดท่าแพ้จุดโทษอาร์เซน่อลใน คอมมิวนิตี้ ชิลด์ หงส์แดง ก็คืนฟอร์มเก่ง ถล่มแบล็คพูล 7-2, ก่อนที่จะเฉือน ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 และชนะ เชลซี 2-0

  5 นาทีผ่านเป็น ลิเวอร์พูล ครองบอลบุกตามคาดได้ลุ้นทำประตูจากจังหวะซัดของ เคอร์ติส โจนส์ และลูกเปิดทางซ้ายของ คอสคาส ซิมิกาส แต่ยังไม่ดีพอผ่านมือ อเล็กซ์ พาลเมอร์

    ต่อมานาทีที่ 9 "หงส์แดง" ขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากความผิดพลาดของ แม็กซ์ เมลเบิร์น ไปเสียเหลี่ยมหวด เคอร์ติส โจนส์ เสียฟรีคิกระยะอันตรายหน้าหัวกะโหลกฝั่งขวา เชอร์ดาน ชากิรี่ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบใต้คานตุงตาข่ายงามหยด

 นาทีที่ 17 ทีมเยือน หวิดบวกสกอร์เพิ่มเป็นจังหวะทำชิ่งทางฝั่งซ้าย มาร์โก กรูยิช ดีดคืนให้ คอสคาส ซิมิกาส ครอสบอลเข้าในมาตกใส่ เคอร์ติส โจนส์ แต่งได้ช่องตะบันด้วยซ้ายหลุดออกหลังไป

    ไม่ต้องรอนานนาทีต่อมา "หงส์แดง" ทิ้งห่างออกไปจากจังหวะแจกโชคของ ลูอิส มอนส์ม่า จ่ายบอลประมาทไปติดขา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก่อนเด้งมาเข้าทาง ทาคูมิ มินามิโนะ เก็บส้มหล่นปั่นตามน้ำด้วยขวาโค้งผ่านมือ อเล็กซ์ พาลเมอร์ เสียบเสาไกลสุดสวย

    โอกาสลุ้นครั้งแรกของทัพ ”ดิ อิมพ์ส” เป็นลูกฉาบฉวยแนวรับ ลิเวอร์พูล เหม่อโดนเล่นฟรีคิกเร็ว เจมส์ โจนส์ หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนตวัดเข้าในไปติดปลายมือ อาเดรียน ผวาปัดทิ้งออกหลัง

    27 นาทีผ่าน จ้าถิ่น เริ่มขยับเกมรุกมากขึ้นเป็น จอร์ช กรานท์ วิ่งสอดหลุดกับดักล้ำหน้าก่อนป้ายเข้าถึง แอนโทนี่ สคัลลี่ ซัดไม่ดีบอลเลยมาถึง คอสคาส ซิมิกาส ตามสกัดออกหลังไปได้ทัน

แต่แล้วนาทีที่ 32 กลายเป็น "หงส์แดง" บวกสกอร์เพิ่มจากบอลยาวของ รีห์ส วิลเลียมส์ วางแทยงเข้าเขตโทษตกใส่หัว ดิว็อค โอริกี้ โขกตั้งให้ เคอร์ติส โจนส์ ดึงเข้าขวาปั่นโค้งผ่าน ทิโมธี อีโยม่า ซุกก้นตาข่าย

    3 นาทีต่อมา ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขอลุ้นเองบ้างลองซัดด้วยซ้ายระยะร่วม 30 หลาบอลพุ่งเรียดเกือบเบียดเสาแรกแต่ อเล็กซ์ พาลเมอร์ พุ่งไปปัดทิ้งออกหลังหวุดหวิด

    ยังไม่หนำใจนาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ยำใหญ่คราวนี้ ลูอิส มอนส์ม่า โหม่งสกัดไม่ขาดบอลมาเข้าทาง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ แทงเร็วให้ เคอร์ติส โจนส์ ชิงเหลี่ยมหมุนตัวเทิร์นบอลก่อนปั่นด้วยขวาแฉลบ ทิโมธี อีโยม่า เข้าไปไม่มีเหลือ

    ท้ายครึ่งแรก ลินคอล์น ซิตี้ พยายามฮึดสู้ ทิโมธี อีโยม่า แอบมาเก็บบอลทางริมเส้นฝั่งขวาหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปหยอดให้ เจมส์ โจนส์ โฉบมาโขกคนเดียวเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงทดเจ็บ ทาโย อีดัน ปีกตัวความหวังของ ”ดิ อิมพ์ส” หลุดเข้ามาถึงในกรอบเขตโทษโชว์ลีลาหลอก รีห์ส วิลเลียมส์ ได้ลองยัดมุมแคบด้วยซ้ายก็ยังไม่ผ่านมือ อาเดรียน ตะปปทิ้งเหมือนเดิม

    หมดครึ่งเวลาแรก ลินคอล์น ซิตี้ 0 ลิเวอร์พูล 4

    ครึ่งหลังเริ่มได้ไม่ถึงนาที ทีมเยือน ยังคงไร้ปราณีหนีออกไปอีกจากการใช้  เพรสซิ่ง แย่งบอลมาได้สุดท้ายเป็น เคอร์ติส โจนส์ แทงช่องให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หลุดเดี่ยวเข้าไปทิ่มติดเซฟ อเล็กซ์ พาลเมอร์ โชคดีเด้งมาเข้าทาง ทาคูมิ มินามิโนะ สลับขาแปร์เข้าไปไม่พลาด

    นาทีที่ 48 อาเดรียน ไม่น้อยหน้าขอโชว์บ้างออกมาตัดลูกหลุดเดี่ยวของ แฮร์รี่ แอนเดอร์สัน ก่อนกลับไปยืนตำแหน่งปัดบอลออกจากเท้า ทาโย อีดัน

 มีพลาดเหมือนกันนาทีที่ 53 ทาโย อีดัน ตักบอลเข้ากรอบเขตโทษ รีห์ส วิลเลียมส์ โดดสกัดไม่ดีเลยมาถึง แอนโทนี่ สคัลลี่ ตามเก็บตกแปร์ไปติดขา อาเดรียน บล็อคช่วยทีมเอาไว้ได้

    นาทีที่ 61 เจ้าถิ่นมาได้ประตูปลุกใจเป็น เนโก วิลเลี่ยมส์ เล่นยากโดนฉกกลางสนามโดน จอร์ช กรานท์ พาบอลย้อนทางขึ้นมาจ่ายเข้าในให้ ทาโย อีดัน ดึงเข้าขวาทิ้งตัวแปร์เรียดผ่าน อาเดรียน เข้าไป

    เกมเปิดแลกสุดมันส์ 4 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล มาได้ประตูครบครึ่งโหลเป็น ลูอิส มอนส์ม่า คนเดิมเคลียร์บอลไม่ขาดมาตกใส่เท้า มาร์โก กรูยิช ก้มหน้ากดหน้าเขตโทษติดปลายนิ้ว เล็กซ์ พาลเมอร์ ไหลเข้าประตู

    นาทีต่อมา ลินคอล์น ซิตี้ แลกหมัดทันควัน จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายโยนลึกไปเสาไกลให้ ลูอิส มอนส์ม่า แก้ตัววิ่งสลัดตัวประกบขึ้นตัดหน้า เนโก วิลเลี่ยมส์ โขกบอลชนใต้คานเด้งเข้าประตูไป

    70 นาทีผ่าน ทิโมธี อีโยม่า ไปเข้าพรวดกระแทก ทาคูมิ มินามิโนะ ร่วงรงไปแทบจะบนเส้น 18 หลา ฟาบินโญ่ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาบอลเฉี่ยวเสาไกลหลุดออกไปได้ลุ้น

    15 นาทีสุดท้าย ดีโอโก้ โชต้า เกือบเบิกสกอร์แรกในนัดประเดิมสนามรับบอลจาก นาบี เกอิต้า แต่งหาช่องหักข้อด้วยขวาบอลผ่านมือ อเล็กซ์ พาลเมอร์ ไปชนเสาเด้งออกมา

    2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่น เริ่มมองเห็นจุดอ่อนในแนวรับ ลิเวอร์พูล แอนโทนี่ สคัลลี่ ถอยมาเก็บบอลทางซ้าย หยอดเข้าในให้ ทีโอดอร์ อาคิบัลด์ เอาชนะ เนโก วิลเลี่ยมส์ เสียดายโขกไปตรงตัว อาเดรียน

    ท้ายเกม "หงส์แดง" มาปิดกล่องจากจังหวะสวนกลับ ทาคูมิ มินามิโนะ พาบอลลากลุยจากครึ่งสนามก่อนแทงออกขวาให้ ดิว็อค โอริกี้ วิ่งมาแปร์ตามน้ำผ่านมือ อเล็กซ์ พาลเมอร์ ไม่พลาด

  จบเกม ลินคอล์น ซิตี้ 2 ลิเวอร์พูล 7 ลูกทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ทำผลงานได้ตามเป้าผ่านเข้าไปฟัด อาร์เซน่อล ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
 
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

    ลินคอล์น ซิตี้ (4-3-3) : อเล็กซ์ พาลเมอร์ – อเล็กซ์ แบรดลีย์, ทิโมธี อีโยม่า, ลูอิส มอนส์ม่า, แม็กซ์ เมลเบิร์น – ทาโย อีดัน, เลียม บริดคัตต์ (ทอม ฮอปเปอร์ น.60), เจมส์ โจนส์ (คอเนอร์ แม็คเกรนเลส น.60) – แฮร์รี่ แอนเดอร์สัน (ทีโอดอร์ อาคิบัลด์ น.67), แอนโทนี่ สคัลลี่, จอร์ช กรานท์

เทรนเนอร์ : ไมเคิ่ล แอ็พเพิลตัน

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน – เนโก วิลเลี่ยมส์, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ฟาบินโญ่ น.46), รีห์ส วิลเลียมส์, คอสคาส ซิมิกาส, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (ดีโอโก้ โชต้า น.57), เคอร์ติส โจนส์, มาร์โก กรูยิช  – เชอร์ดาน ชากิรี่ (นาบี เกอิต้า น.75), ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ

เทรนเนอร์ : เจอร์เกน คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : โทนี่ แฮร์ริงตัน

อาร์เตต้าชี้อาร์เซน่อลทาบลิเวอร์พูลได้หรือยัง

หลังจากล่าสุดผ่าน ลิเวอร์พูล ในรอบ 4 ของศึก คาราบาว คัพ ได้ จากการชนะในช่วงดวลเป้า มิเกล อาร์เต้า กุนซือ อาร์เซน่อล ก็บอกว่าที่จริงตอนนี้ "ไอ้ปืนใหญ่" ยังห่างชั้นจาก ลิเวอร์พูล อยู่เยอะ แต่ชมลูกทีมเช่นกันที่ทำผลงานได้ดี

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนยังห่างชั้นจาก ลิเวอร์พูล เยอะอยู่ดี แม้ว่าล่าสุดจะผ่านอีกฝ่ายในรอบ 4 ของศึก คาราบาว คัพ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาได้ก็ตาม

นี่นับเป็นการไปเยือน แอนฟิลด์ ครั้งที่ 2 ติดต่อกันของ อาร์เซน่อล หลังจากเพิ่งแพ้อีกฝ่ายในเกมลีก 1-3 เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งหนนี้สกอร์ในช่วง 90 นาทีจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 ทำให้ต้องมาตัดสินผู้ชนะในช่วงดวลจุดโทษ และเป็นทีมเยือนที่ยิงได้แม่นกว่า โดยนี่ยังทำให้ทีมของ อาร์เตต้า ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล ถึง 3 เกมจากการเจอกัน 4 นัดหลังสุดด้วย เพราะในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ สกอร์ก็จบลงที่การเสมอกัน 1-1 ก่อนที่ อาร์เซน่อล จะชนะในช่วงดวลจุดโทษ ส่วนเกมลีกเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายเฉือนไป 2-1

"การมาเยือนที่นี่แล้วสามารถด้วยความมุ่งมั่นกับความกล้าหาญในระดับนี้ได้น่ะถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของทีมเลย พวกเขากำลังอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง แต่เราก็ยังตามหลัง ลิเวอร์พูล เยอะอยู่ดี เราจะเดินหน้าปรับปรุงกันต่อไปเพื่อที่จะพยายามไปถึงระดับเดียวกับพวกเขาให้ได้" กุนซือชาวสแปนิชระบุ

อย่างไรก็ตาม อาร์เตต้า ก็เสริมว่าพอใจกับฟอร์มโดยรวมของลูกทีม หลังจากต่อกรกับ ลิเวอร์พูล ได้ดีกว่าเกมก่อน และยังชม แบร์นด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูชาวเยอรมันเป็นการพิเศษด้วย ภายหลัง เลโน่ เซฟลูกจุดโทษในช่วงดวลเป้าได้ 2 หน "ผมพอใจกับฟอร์มของเรา ผมคิดว่าเด็กๆ ของผมเล่นได้ยอดเยี่ยมมากๆ เราแก้ไขความผิดพลาดบางอย่างจากเกมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้ มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆ เราต่อกรกับพวกเขาได้ดีขึ้น การที่เราเล่นได้ดุดันแบบนี้และการที่เราไล่กดดันสูงใส่พวกเขาได้อย่างนี้มันถือเป็นผลงานที่ดีสุดๆ"

"แบร์นด์ เลโน่ เองก็ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ เขาก้าวขึ้นมาช่วยเราในตอนที่เราต้องการเขา การจะชนะที่ แอนฟิลด์ ได้น่ะคุณจำเป็นต้องโชว์ฟอร์มส่วนตัวที่สุดยอดออกมาให้ได้ และคืนนี้เราก็ทำอย่างนั้นได้ ผมมีความเชื่อมั่นในตัว แบร์นด์ ผมรู้จักเขาดี และรู้ดีว่าเขาสามารถทำอะไรให้เราได้บ้าง ที่ริงเราไม่อยากปล่อย เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ไปหรอกนะ แต่มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ดีต่อทั้ง 2 ฝ่ายแล้วก็ได้"

 

ส่อย้าย?บรูว์สเตอร์ส่งสัญญาณเหมือนจะลาลิเวอร์พูล

ทุกวันนี้นักฟุตบอลชอบกด "ไลค์" ข่าวสารตามโลกโซเชียลเยอะพอตัว และล่าสุดก็มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนั้นเมื่อ ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกอนาคตไกลของ ลิเวอร์พูล ดันกด "ถูกใจ" ข่าวที่บอกว่าเขาจ่อที่จะย้ายไปอยู่กับ เชฟฯ ยูไนเต็ด แล้ว

ริอาน บรูว์สเตอร์ กองหน้าดาวรุ่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ส่งสัญญาณเหมือนกับว่ากำลังจะย้ายไปอยู่กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หลังจากไปกด "ถูกใจ" ข่าวที่บอกว่าเขาอาจจะไปซบที่นั่น

บรูว์สเตอร์ ถือเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองรายหนึ่ง โดยเขาเคยทำประตูให้ทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ได้เยอะพอตัว ขณะที่ฤดูกาลก่อนตอนไปเล่นกับ สวอนซี ซิตี้ ด้วยสัญญายืมตัวเขาก็ทำได้ 10 ประตู จากการลงเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ 20 นัด แถมในซีซั่นนี้เขาก็ได้ลงเล่นเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ "หงส์แดง" แพ้ อาร์เซน่อล ในช่วงดวลจุดโทษด้วย

อย่างไรก็ตาม เป็นที่เชื่อว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยังไม่คิดว่าเขาดีพอที่จะเป็นกำลังของทีมสำหรับการสู้ศึกฤดูกาล 2020-21 อยู่ดี จนทำให้แข้งวัย 20 ปี ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการย้ายทีมหนักพอตัว โดยนอกจาก เชฟฯ ยูไนเต็ด แล้วนั้น คริสตัล พาเลซ ก็เป็นอีกทีมที่ให้ความสนใจในตัวเขาเหมือนกัน และไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่า ลิเวอร์พูล ตอบรับข้อเสนอจาก "ดาบคู่" แล้ว หลังจาก เชฟฯ ยูไนเต็ด เสนอจ่ายค่าตัวให้ 25 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,025 ล้านบาท)

ทั้งนี้ Risingballers เพจด้านข่าวสารวงการฟุตบอลบน อินสตาแกรม ก็เล่นข่าวนี้เช่นกัน ซึ่งมันก็มีคนเข้าไปกด "ถูกใจ" เยอะพอตัว แต่ประเด็นคือหนึ่งในคนที่กดถูกใจก็คือ บรูว์สเตอร์ เอง จนทำให้ดูเหมือนกับว่ามีโอกาสสูงที่มันจะเป็นเรื่องจริง

ฮอตอีก!มินามิโนะทำประตูเกมอุ่นเกือกนอกรอบ

ทาคูมิ มินามิโนะ ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ได้อีกแล้ว ในเกมอุ่นเกือกแบบลับสุดยอดที่ "หงส์แดง" เจอกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ โดยคนที่ได้ลงเล่นนัดดังกล่าวเป็นพวกที่ไม่ได้ลงเป็นตัวจริงในเกมกับ ลีดส์
    ทาคูมิ มินามิโนะ ปีกชาวญี่ปุ่นของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องกับทีมชุด บี ของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา

    ส่วนใหญ่แล้วคนของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ลงเล่นในนัดดังกล่าวคือนักเตะในทีมชุดใหญ่ที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ "หงส์แดง" ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมันเป็นเกมที่ลับสุดยอดมากๆ จนเพิ่งมีคนมารู้ว่าเตะกัน และเป็นเกมที่ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้ามาดูในสนามด้วย

    ทั้งนี้ มินามิโนะ ทำประตูได้ในช่วงก่อนพักครึ่ง แต่ทีมชุดบีของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ได้ประตูตีเสมอในช่วง 15 นาทีสุดท้ายจากการที่มีนักเตะ ลิเวอร์พูล ทำเข้าประตูตัวเอง ทำให้สกอร์จบลงที่การเสมอกัน 1-1 แต่มันก็ถือว่าอดีตแข้ง เร้ดบูลล์ ซัลซบวร์ก กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดีพอตัว เพราะเมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา เขาทำประตูในเกมอุ่นเกือกที่ ลิเวอร์พูล ถล่ม แบล็คพูล 7-2 ได้ และถ้าย้อนไปก่อนหน้านั้นก็ทำประตูในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ทีมแพ้ อาร์เซน่อล ในช่วงดวลจุดโทษเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาได้เหมือนกัน

    นอกจาก มินามิโนะ แล้วนั้น คนที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีอย่างเช่น อาเดรียน, เจมส์ มิลเนอร์, เซอร์ดาน ชากิรี่, ดิว็อค โอริกี้ และ โฌแอล มาติป ส่วน ลอริส คาริอุส, แฮร์รี่ วิลสัน และ ริอาน บรูว์สเตอร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในช่วงพักครึ่ง

จะเป็นยังไงเมื่อ อลีสซง มาในลุคใหม่

อลีสซง เบ็คเกอร์ จัดการเปลี่ยนทรงผมของตัวเอง ต้อนรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยสร้างความประหลาดใจให้แก่สาวกเดอะ ค็อป เป็นจำนวนมาก

   อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมาดเท่ของ ลิเวอร์พูล ทำเอาแฟนๆ ตะลึงในทรงผมใหม่ ก่อนเกมที่จะลงสนามในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ อาร์เซน่อล ในคืนวันเสาร์นี้

    อลีสซง เผยภาพลุคใหม่ของตัวเองให้แฟนๆ ที่ติดตามกว่า 7 ล้านคนใน อินสตาแกรม ของตัวเอง ได้เห็นโดยเป็นการแชร์ภาพจาก แอคเคาท์ของ นาตาเลีย ภรรยาสาว มาลงในไอจีสตอรี่ เป็นรูปผมที่โดนตัดออก แล้วภาพถัดมาเป็นลุคใหม่ผมสั้นสุดเนี้ยบ

    โดย แคปชั่น ของ นาตาลี ใส่สั้นๆ เป็นภาษาโปรตุกีส ว่า "Meu lindo" ซึ่งมีความหมายคือ "ความสวยงามของฉัน"

โอเว่นฟันฉับอาร์เซน่อลหรือลิเวอร์พูล ใครครองโล่การกุศล

ไมเคิล โอเว่น ฟันธงเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ คู่ระหว่าง อาร์เซน่อล พบ ลิเวอร์พูล ในคืนวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวหวังว่าจะได้เห็นเกมที่สนุกและมีประตูเกิดขึ้นหลายลูก

    ไมเคิล โอเว่น อดีตกองหน้าคนดังของ ลิเวอร์พูล แสดงทรรศนะพร้อมฟันธงผลการแข่งขัน เกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ อาร์เซน่อล จะพบกับ ลิเวอร์พูล ที่สนามเวมบลี่ย์ ในคืนวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้

    อาร์เซน่อล ในฐานะแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปีก่อน จะทำศึกชิงโล่การกุศล เจอกับ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2019/20 โดยทาง โอเว่น ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นกูรูให้กับ เบ็ทวิคเตอร์ เว็บไซต์ฟุตบอลต่างประเทศ ฟันธงว่าต้นสังกัดเก่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยได้

    "แม้จะมีการพูดกันว่าเกมนี้เป็นเหมือนเกมกระชับมิตร แต่ทั้งสองทีมอยากที่จะเริ่มต้นฤดูกาลด้วยชัยชนะ และผมหวังว่าจะได้เห็นเกมที่สนุกและมีประตูเกิดขึ้นมากมาย"

    "ให้เทียบเรื่องความเตรียมพร้อมและความเฉียบคมของทั้งสองทีมแล้ว ผมยังชอบฝั่งลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่จะแสดงออกมาว่าอยู่ในระดับสูง และจะคว้าอีกหนึ่งโทรฟี่ได้ในช่วงเย็นของวันเสาร์ ผมให้ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะ 3-1 ละกัน" โอเว่น เผยผ่านบล็อกของ เบ็ท วิคเตอร์

ส่องไลน์อัพลิเวอร์พูล-อาร์เซน่อลชิงโล่การกุศล

คาด 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ในเกมชิงโล่การกุศล โดยที่ทั้งสองทีมอาจยังให้กองหน้าดาวรุ่งลงล่าตาข่าย หลังผลงานดีในเกมอุ่นเครื่อง
    ฟุตบอล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ปีนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ อาร์เซน่อล แชมป์ เอฟเอ คัพ ที่สนามเวมบลีย์ ในคืนวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ (22.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย)

    ศึกชิงโล่การกุศลรายการนี้นับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่ใกล้เปิดฉาก โดยที่ซีซั่น 2020/21 จะออกสตาร์ตตั้งแต่วันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้

    ในเกมนี้คาดว่า ทั้งสองทีมอาจจะยังไม่ส่งชุดใหญ่ลงเต็มสูบ โดยฝั่ง ลิเวอร์พูล มีนักเตะเจ็บอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โฌแอล มาติป และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด ขณะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ยังต้องรอเช็กความฟิต

    คาดว่า เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" จะส่ง อลีสซง เบ็คเกอร์ ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็กโฟร์อาจให้ เนโก วิลเลี่ยมส์ ลงมาทำหน้าที่แทน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ส่วนคู่เซนเตอร์แบ็ก ฟานไดค์ น่าจะได้ลงจับคู่กับ โจ โกเมซ โดยมี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยืนเป็นแบ็กซ้าย

    ส่วน 3 กองกลางให้ ฟาบินโญ่ ยืนเป็นตัวตัดเกมอยู่หลัง เคอร์ติส โจนส์ กับ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ขณะที่ 3 ประสานแดนหน้าใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และอาจเปิดโอกาสให้ ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกดาวรุ่งได้ลงเป็นตัวจริงแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลังทำผลงานเยี่ยมในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่น

    ด้าน อาร์เซน่อล มีข่าวว่า นักเตะ 4 รายโดนกักตัว หลังเพิ่งกลับจากการเดินทางไปพักร้อนในต่างแดนโดยหนึ่งในนั้นคือ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ ผู้รักษาประตูชาวอาร์เจนไตน์ ทำให้ แบรนด์ เลโน่ จะได้กลับมาเป็นตัวจริงหลังหายเจ็บแล้ว

    ส่วนเซนเตอร์แบ็ก 3 คนใช้ วิลเลี่ยม ซาลิบา, ดาวิด ลุยซ์ และ คีแรน เทียร์นี่ หลัง ชโคดราน มุสตาฟี่ กับ ปาโบล มารี ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน

    ขณะที่กองกลาง 4 คนให้ เซดริก โซอาเรส ยืนฝั่งขวา ส่วน บูกาโย่ ซาก้า ประจำการด้านซ้าย โดยมี กรานิต ชาคา กับ โจ วิลล็อค ยืนคู่กลาง

    ด้าน 3 ประสานแนวรุกให้ วิลเลี่ยน ปีกคนใหม่ยืนด้านขวา ขณะที่ ปิแอร์ เอเมอริค-โอบาเมย็อง เล่นด้านซ้าย โดยมี เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยืนหน้าเป้าหลังผลงานเยี่ยมยิงประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องที่ถล่ม เอ็มเค ดอนส์ 4-1 เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา